Start: | Apr 14, '08 |
End: | Apr 21, '08 |
Location: | Nepal |
คว้างอยู่สองวัน กำลังจะตัดสินใจว่าจะ backpack ไปบาหลีหรือศรีลังกาดี ก็พอดีกับทาง TKT โทรเข้ามาบอกว่าโปรแกรม นมัสเตไม่ต้องยกเลิกจะเปลี่ยนไปโปรแกรมนี้แทนไหม แต่เดินทางแค่ 8 วัน ไม่ใช่ 12 วันเหมือนโปรแกรม poon hill ที่จองไว้ ก็เลยตัดสินใจเอาก็เอาได้น้อยดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เพราะปลายปีก็มีคิวอยากไปที่อื่นอยู่แล้ว
โปรแกรมการเดินทาง 8 วัน 7 คืน บิน RA
http://board.trekkingthai.com/board/show.php?Category=trekking&forum=25&No=78679
วันที่ 1 กรุงทพฯ - กาฐมาณฑุ
เวลา 11.30 น. เจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 เคาเตอร์ W10 สายการบินรอยัลเนปาล RA 402
เวลา 13.55 น. เหิรฟ้าสู่ เนปาล
เวลา 15.50 น. ถึงสนามบินตรีภูวัน ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
เวลา 16.30 น. เข้าที่พักย่านทาเมล เดินเล่นชมสินค้าย่านทาเมล พร้อมแลกเงิน
เวลา 18.30 น. ทานอาหารเย็น พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 2 จัตุรัสดะระบาร์ของกาฐมาณฑุ-ปาตัน-สวยมภูวนาถ
เวลา 07.00 น. ทานอาหารเช้า
เวลา 08.30 น. สู่จัตุรัสดะระบาร์กาฐมาณฑุ กุมารีบะฮาล เป็นวัดก่ออิฐถือปูนจากกลางศตวรรษที่ 18 หน้าต่างวัดเป็นไม้แกะสลักฝีมือละเอียดมีรูปสิงห์ขนาบสองข้างประตู วัดนารายัณ วังประตูหนุมาน (Hanuman Dhoka Durbar) ด้านข้างประตูเป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพหนุมาน สร้างขึ้นในปี 1672 ตัวเทพได้รับการเจิมชาดเสียจนเป็นสีแดงเข้มใต้ร่มฉัตร ประตูเข้าตัววังได้รับการทาสีสดใสทางซ้ายของบริเวณทางเข้าคือ เทวรูปนรสิงห์ อวตารปางหนึ่งของพระวิษณุเป็นกึ่งสิงห์กึ่งมนุษย์เพื่อฆ่ายักษ์หิรัญกศิปู
เวลา 12.00 น. ทานอาหารกลางวัน หลังจากนั้นชมจัตุรัสดะระบาร์ของปาตันหรือละลิตปูร์ เมืองอันงดงาม มีชื่อเสียงด้านทองเหลือง ชมวัดคราบาฮ์หรือวัดทองเป็นอารามที่พักทางจิตวิญญาณและทางศาสนาอันเก่าแก่ สร้างอุทิศแด่พระราชินีพระองค์หนึ่งในศตวรรษที่ 12 ตัวอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ หลังคาสามตอนทางด้านหน้าตกแต่งอย่างบรรเจิดด้วยทองแดง มีสิงห์คู่อยู่ที่ประตูทางเข้าภายในเป็นที่ประดิษฐานของเทวรูปต่างๆ วัดคุมเบชวาร์ เป็นวัดหนึ่งในสามแห่งในหุบเขาที่มีหลังคาห้าชั้น วัดนี้สร้างอุทิศแด่พระศิวะ
เวลา 14.00 น. เดินทางต่อชมเจดีย์สวยมภูนาถหรือวัดลิง ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ย ที่องค์เจดีย์จะมีรูปคิ้วและดวงตาอยู่โดยรอบ เจดีย์ทางพุทธศาสนาอันเลื่องชื่ออายุกว่า 2000 ปี องค์สถูปครึ่งทรงกลมสีขาวเป็นสัญญลักษณ์แทนธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ปล้องไฉนสีทองอร่าม 13 ชั้นเหนือองค์สถูป เป็นสัญญลักษณ์แทนระดับธรรม 13 ชั้นก่อนบรรลุพระนิพพาน
เวลา 18.30 น. ทานอาหารเย็น พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 3 กาฐมาณฑุ-โพครา-เฟวา-วัดทอง Barahi
เวลา 07.00 น. นั่งรถบัสไปที่เมืองโปขราอันสวยงาม(Pokhara City) ประมาณ 6-7 ชั่วโมง ทานอาหารเช้าระหว่างทาง ชื่นชมกับทัศนียภาพอันแสนจะงดงามสองข้างทาง เมืองนี้เป็นเมืองในหุบเขามีขุนเขาน้อยใหญ่ล้อมรอบอยู่เพียงแหงนหน้าขึ้นมองก็เห็นวิวภูเขา Annapurna I-IV , Fish tail พักโรงแรม ย่านเลคไซค์
เวลา 16.00 น. นั่งเรือพายชมทะเลสาบเฟวา(Phewa)ยามเย็น ไปยังเกาะกลางทะเลสาบชมวัดทอง Golden Temple of Barahi ซึ่งสร้างถวายพระวิษณุในปางที่พระองค์อวตารเป็นหมูป่าเพื่อมาช่วยเหลือชาวโลก ชาวฮินดูมักจะนำนกพิราบมานมัสการ จึงทำให้มีคอนโดฯ ของนกพิราบอยู่จำนวนมาก
เวลา 18.30 น. ทานอาหารเย็น พักผ่อนตามอัธยาศัย *** แยกเสื้อผ้า 1 ชุดสำหรับค้างคืนบนเขาคืนพรุ่งนี้
วันที่ 4 Bindhabasani temple-เนาดันดา (Naudanda)-สรังกอต (Sarangkot)
เวลา 07.00 น. ทานอาหารเช้า
เวลา 08.30 น. ชมวัดฮินดู Bindhabasani เป็นที่เคารพของชาวเนปาลีในเมืองโพครา มีพิธีทำบุญเฉพาะวันอังคารและวันเสาร์ ถ้าเป็นวันพิธีสำคัญใหญ่ๆ จะมีการบูชายันด้วยสัตว์เล็กและใหญ่ตลอดทั้งวัน นั่งรถไปที่จุด start เทร็กกิ้งระยะสั้นเดินกินลมชมวิวสบายๆ วิถีชีวิตชาวเนปาลี ที่เนาดันดา (Naudanda) ผ่านหมู่บ้าน ทุ่งนาขั้นบันได เป็นระยะทาง 8 กม. ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. พักโรงแรม Annapura&Sherpa Resort
เวลา 18.30 น. ทานอาหารเย็น
วันที่ 5 สรังกอต-seti-เดวี่-ศูนย์อพยพชาวทิเบต
เวลา 05.30 น. ขึ้นยอดเขา sarangkot ชมพระอาทิตย์ขึ้น มีจุดชมวิวสูงจากระดับน้ำทะเล 1,592 เมตร ที่จุดชมวิวสามารถมองเห็นเทือกเขาอันนะปุรณะ เห็นวิวภูเขาตั้งแต่ยอดของภูเขา Annapura I – IV และ Annapura South ส่วนอีกยอดที่โดดเด่นคือ ยอดเขาหางปลา (Fish Tail) หรือ Machhapuchhare มีหิมะปกคลุมทั้งปี
เวลา 08.00 น. ทานอาหารเช้า
เวลา 09.00 น. เดินทางลงเขาสรังกอต ถึงจุดนัดหมายขึ้นรถบัสไปชมแม่น้ำ seti มีสีขาวคล้ายน้ำนม
เวลา 12.00 น. ชมน้ำตกเดวี่ที่มหัศจรรย์ไหลลงเหวลึก ต้องก้มมอง ตั้งชื่อตามคนที่ตกลงไปตายเป็นชาวสวิสเนื่องจากโดนกระแสน้ำพัด เดินทางต่อไปยังศูนย์อพยพชาวทิเบตชมการทอพรมด้วยมือ ชมวัดทิเบต
เวลา 18.30 น. ทานอาหารเย็น พร้อมชม ระบำเนปาลีอันเร้าใจและสนุกสนาน
วันที่ 6 โพครา - วัดปศุปฎินาถ – บักตาปูร์ – นากาก็อต
เวลา 07.00 น. ทานอาหารเช้า
เวลา 08.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินโพครา
เวลา 09.20 น. นั่งเครื่องบินภายในประเทศกลับกาฐมาณฑุ ชมทิวทัศน์เทือกเขาหิมาลัยในมุมสูง (Bird’s eye view)
เวลา 10.00 น. เดินทางสู่วัดปศุปฎินาถ พระศิวะได้รับการบูชาสักการะผ่านรูปของศิวลึงค์ในอวตารปางเทพปศุปติ ชมโพธินารถ เมืองเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งของสถูปตามศิลปะทิเบต มีพิธีเผาศพตามลัทธิฮินดูเกิดขึ้นทุกวันริมแม่น้ำบักมาตี เถ้ากระดูกจากพิธีเผาถูกโปรยลงสู่แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งไหลไปบรรจบกับแม่น้ำคงคา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ดูวิถีชีวิตของซาดู (โยคีนักพรต นักบวช)
เวลา 12.00 น. ทานอาหารกลางวัน ต่อด้วยการชมบักตะปูร์เป็นเมืองอดีตราชธานีของหุบเขาเป็นเมืองที่มีความเจริญเป็นอย่างยิ่งบนเส้นทางการค้าสู่ทิเบตในสมัยโบราณ ชมพระราชวังบักตะปูร์ พระราชวัง 55 พระแกล ประตูทองคำ ตำหนักเทพตะเลจู (taleju God House) วัดเนียตะโปลาเป็นศาสนสถานที่สูงที่สุดของเนปาลมีหลังคา 5 ชั้น ชม potter’s square หมู่บ้านเครื่งปั้นดินเผา
เวลา 15.00 น. แล้วเดินทางสู่เทือกเขานากาก๊อต ประมาณ 1 ชั่วโมง จะพบกับเทือกเขาหิมาลัยฝั่งตะวันออกประกอบด้วยยอดเขา Ganesh, Langtang ฯลฯ และชมพระอาทิตย์ตก พักโรงแรม View point บนเขานากาก็อต 1 คืนด้วยความสูง 1,985 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก มองเห็นเมืองกาฐมาณฑุถูกล้อมรอบรอบไปภูเขา
เวลา 18.30 น. ทานอาหารเย็น
วันที่ 7 นากาก็อต - Changunarayan – โบดะนาถ – Budhanikantha temple
เวลา 06.00 น. ตื่นเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัย ในวันอากาศดีจะสามารถเห็นยอดเขาเอเวอร์เรสท์
เวลา 07.00 น. ทานอาหารเช้า
เวลา 08.30 น. เดินทางลงเขาจากนากาก็อตสู่วัด Changunarayan วัดแห่งเทพวิษณุ ตัววัดตั้งอยู่ในลานกว้างมีรูปสลักหินจากสมัยลิจฉวี (ศตวรรษที่ 4-9) จำนวนมากจัดได้ว่าเป็นยุคทองของศิลปะเนวารี งานชิ้นเอกแทนองค์เทพวิษณุ คือ เทวรูปพระวิษณุในอวตารนรสิงห์ ซึ่งมีเศียรเป็นสิงห์ในท่าพิชิตกษัตริย์แห่งหมู่มาร เทวรูปพระวิษณุสิบเศียรสิบกร และพระวิษณุวิกรานทะ ซึ่งมีร่างเป็นคนแคระหกกร ด้านหน้าวัดเป็นที่ตั้งของหลักศิลาจารึกที่เก่าแก่ที่สุด ข้างศิลาเป็นที่ประดิษฐานรูปครุฑพาหนะของเทพวิษณุ ส่วนอนุสาวรีย์พระเจ้าภูปฎินทรา มัลละและพระมเหสีมีกรงทองอยู่ล้อมรอบ เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเนปาลและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย
เวลา 12.00 น. ทานอาหารกลางวัน โบดะนาถ สถูปที่ใหญ่ที่สุดของเนปาล มีอาคารบ้านเรือนสีสดใสตั้งอยู่บนวงรอบ องค์สถูปทรงกลมสีขาวใหญ่มีภาพดวงตาเห็นธรรมสีแดง เหลืองและน้ำเงิน และเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในเนปาลและเป็นศูนย์กลางศาสนาแบบทิเบตที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เวลา 15.00 น. เดินทางต่อชม Budhanikantha temple วัดวิษณุเทพเป็นที่เคารพของชาวฮินดู มีหินแกะสลักเทวรูปพระวิษณุปางไสยาสน์สีดำขนาดใหญ่บนพระแท่นงูขดล้อมรอบกลางบ่อน้ำ ผู้เลื่อมใสศรัทธาโปรยเครื่องบูชา ข้าวตอกดอกไม้ลงบนพระวรกาย มีคำพยากรณ์แห่งความตายห้ามมิให้กษัตริย์ของเนปาลทอดพระเนตรไปยังเทวรูป
เวลา 19.00 น. ทานอาหารเย็น
วันที่ 8 กาฐมาณฑุ - กรุงเทพฯ
เวลา 05.30 น. ทานอาหารเช้า
เวลา 06.00 น. เดินทางสู่สนามบิน ผ่านพิธีการด่านตรวจ รอขึ้นเครื่อง
เวลา 08.30 น. เหิรฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ โดย RA 401
เวลา 13.00 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
***โปรแกรมอาจปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของเวลาและสถานที่โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้จะยึดถือและคำนึงถึงผลประโยชน์ตลอดจนความปลอดภัยของผู้ร่วมทางเป็นสำคัญ***
อัตราค่าบริการท่านละ 33,900 บาท
(ท่านใดเดินทางด้วย TG ลดค่าตั๋วไป 14,000 บาท และออกค่าภาษีสนามบินเอง, ทำวีซ่าเองลด 1,000 บาท)
จะไปเหรอ อันนี้อ่านรึยัง เผื่อสนใจ : )
ReplyDeletehttp://board.trekkingthai.com/board/show.php?Category=trekking&forum=25&No=114050
เข้ามาดู
ReplyDeleteอาร์ตตะลอน