เที่ยวอยุธยากันดีกว่า

พระนครศรีอยุธยา

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ใกล้ๆกรุงเทพฯนี่เอง ระยะทางเพียง 75 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปเยี่ยมชมได้อย่างสะดวก ทั้งทางรถยนต์และรถไฟ มีสถานที่ให้เยี่ยมชมอยู่มากมาย แต่ก็เป็นสถานที่เที่ยว แบบคนชอบ ประวัติศาสตร หรือชอบชมสถานที่ โบราณของเก่า อะไรเทือกนั้น และทั้งๆที่อยู่ใกล้ๆ เดินทางไปง่ายๆ แต่ก็หลายปีดีดักแล้ว ที่ไม่เคยได้ไปเยี่ยมเยียน เพิ่งจะมาปีนี้นี่เองที่เกิดอาการอยากไป พอไปแล้วถึงได้รู้สึกว่า เออนะ…เรามักจะไม่ค่อยนึกถึงอะไรที่อยู่ใกล้ๆตัวไม่ว่าจะเป็นสถานที่หรือผู้คนรอบข้าง ทั้งๆที่ทุกสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรานี่ ล้วนแต่เป็นสิ่งดีๆทั้งนั้น เราก็เอาแต่ละเลยทำเฉยบางครั้งถึงกับมองข้ามจนหลงลืมไป ตอนนี้ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมใครๆก็ไม่รัก ;p

พระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลาง เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณราบลุ่มแม่น้ำ มีแม่น้ำไหลผ่านหลายสาย ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา, แม่น้ำป่าสัก, แม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำน้อย มีลำคลองอยู่มากมาย มีพื้นที่กว้างขวางถึง 2,547.616 ตร.กม. แต่เป็นจังหวัดที่ไม่มีภูเขาทั้งๆที่จังหวัดอื่นๆที่ใกล้ๆกัน เช่น สระบุรี กลับมีภูเขาอยู่มากมาย

ลองกลับไปทบทวนประวัติศาสตร์ดู อือหือ…ช่างเป็นเมืองเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ยาวเหยียด ต้องศึกษากันอย่างจริงจังนั่นแหละถึงจะรู้รายละเอียดได้อย่างลึกซึ้ง แต่อย่างเราๆ เอาแค่ได้รู้ว่าเมืองนี้ผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านการสู้รบมายาวนาน แต่ก็ยังเป็นเมืองท่าของการค้าขายกับต่างประเทศตั้งแต่โบราณกาล รู้แค่นี้ก็คงพอแล้วมั้ง แบบว่าสมองมันเบลออ่ะ ให้จำอะไรมากๆเดี๋ยวช๊าก…แง๊ก…แง๊ก แต่ถ้าใครคิดว่ายังรับไหวอยากรู้อีก ก็ด๊าย…บอกอีกก็ได้ว่าชุมชนดั้งเดิมก่อนเกิดกรุงศรีอยุธยาคือชุมชนแห่งแคว้นอโยธยา ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของกรุงละโว้ที่เจริญรุ่งเรืองในยุคนั้น สาเหตุด้วยทำเลของแค้วนอโยธยาที่สะดวกต่อการขนส่งทางน้ำ จึงทำให้เมืองเจริญรุ่งเรืองขึ้นด้วยการค้าจนกลายเป็นเมืองท่าติดต่อค้าขายกับต่างชาติโดยเฉพาะกับชาวจีน หลังจากนั้นไม่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นประวัติศาสตร์มันขาดหายไป แต่ก็คงมีเรื่องอะไรสักอย่างล่ะน่า ไม่งั้นคงไม่เกิดการสร้างกรุงใหม่ในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่เดิม แล้วสถาปนาเป็นกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. 1893 โดยพระเจ้าอู่ทอง เออเนอะ…เมืองมันก็เกิดก็ดับเป็นเหมือนชีวิตเรานี่แหละ แต่อยุธยานี่เป็นราชธานียาวนานถึง 417 ปี เชียวนะ ตอนนี้ทุกคนน่าจะรู้กันแล้วว่าใครเป็นกษัตริย์องค์แรกที่ปกครองกรุงศรีอยุธยา  อ้าว…มีคนไม่รู้ด้วยเหรอ  โถ…ผู้สร้างเมืองก็เป็นผู้ครองเมืองคนแรกสิครับ รู้รึยังใครเอ่ยคือกษัตริย์องค์แรกของกรุงศรีอยุธยา ???? ปุจฉา: แล้วรู้ไหมว่ากรุงศรีอยุธยามีกษัตริย์ทั้งหมดกี่พระองค์  อิอิ วิปัสสนา: มี 34 พระองค์ โดยเริ่มจากพระเจ้าอู่ทองและไปสิ้นสุดที่พระเจ้าเอกทัศ มีอีกคำถามนึงใครรู้ลองตอบดูสิ ทำไมคนมักจะบอกว่ากรุงศรีอยุธยามีกษัตริย์เพียง 33 พระองค์ อิอิ ใครตอบไม่ได้ก็ตะโกนดังๆเลยว่า "ฉันมันแย่...แพ้เด็ก ป.4"  ประวัติศาสตร์เอาแค่นี้พอนะแบบว่า ถ้าอยากรู้เยอะกว่านี้ไปหาซื้อหนังสือมาอ่านเองก็แล้วกัน 

มาเที่ยวกันดีกว่า …. ที่แรกที่อยากชวนไปคือที่ อ.บางปะอิน เพราะนั่งรถไฟไปชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแล้ว บอกเขาว่าลงสถานีบางปะอิน ค่ารถไฟแค่ 12 บาทเท่านั้นเอง (as at May 2008) มีรถทั้งวัน ไปเช้าบ่ายๆก็กลับได้แล้ว หรือจะเลยไปตัวเมืองอยุธยาเลยก็สะดวกดี เพราะห่างกันแค่ 18 กิโลเมตร นั่งรถแป๊ปเดียวก็ถึงตัวเมืองแล้ว ลองเช็คตารางเดินรถไฟ ดูนะครับ  ที่บางปะอินนี่มี 2 สถานที่สำคัญที่อยู่ใกล้ๆกันมีแค่แม่น้ำเจ้าพระยากั้นขวางไว้เท่านั้นเอง สามารถนั่งกระเช้าข้ามแม่น้ำไปได้แถมยังฟรีอีกด้วย

สถานที่แรกคือพระราชวังบางปะอิน จากสถานีรถไฟบางปะอินจะมีรถสองแถวมารอรับผู้โดยสารด้านหลังสถานี ค่ารถแค่ 10 บาท ไปส่งหน้าพระราชวังเลย ที่นี่มีอะไรน่าสนใจนะเหรอ…ลองนึกย้อนไปตอนเด็กๆสิ ยังจำเรื่องพระนางเรือล่มได้หรือเปล่า เรื่องเกิดระหว่างการเสด็จประพาสพระราชวังบางปะอินพร้อมมเหสีทุกพระองค์ของรัชกาลที่ 5 นั่นไงครับ ภายในพระราชวังบางปะอินแบ่งเป็นพระราชฐานชั้นในและชั้นนอก มีหอ มีพระตำหนัก และมีพระที่นั่งต่างๆ หลายอย่างอยู่ในนั้น ใครอยากร้รายละเอียดและประวัติมากกว่าลองเข้าไปอ่านดูใน วิกิพีเดีย หรือที่เว็บของ การท่องเที่ยว เอาเองนะ แบบว่าขี้เกียจลอกน่ะ

สถานที่ที่สองก็จะเป็นวัดนิเวศธรรมประวัติ ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ตรงกันข้ามกับพระราชวังบางปะอินนั่นเอง ออกจากพระราชวังฯแล้วก็เดินมาที่ลานจอดรถ เดินทะลุเข้าด้านในของลานจอดรถจะมีกระเช้าข้ามแม่น้ำที่ทางวัดจัดให้บริการฟรี ส่วนใครจะบริจาค ทำบุญใส่กล่องรับบริจาคเท่าไหร่ก็แล้วแต่ศรัทธา ก่อนข้ามกระเช้าแนะนำ ให้แวะชิมทอดมันที่นี่ก่อน จานละ 50 บาท แต่อร๊อย อร่อย ขอคอนเฟริม (หิวอีกแล้วแฮะ) ที่วัดนี้ดูแล้วรู้สึกสนุก ทำไมน่ะเหรอ ทุกอย่างทำแบบลอกเลียนแบบ ของชาวคริสต์มาทั้งหมดเลย โบสถ์ก็ทำแบบศิลปะโกธิค และเป็นสไตล์โบสถ์ฝรั่งทั้งดุ้นเลย แตกต่างกันเพียงที่ตั้งไม้กางเขน ก็เอาพระพุทธรูปของชาวพุทธมาตั้งแทน (พระพุทธนฤมลธรรโมภาส)

เดี๋ยวมีเวลาแล้วจะมาต่อสถานที่ต่างๆในตัวเมืองอยุธยานะครับกระผม