
ต่อมาเมห์เหม็ดผู้พิชิตแห่งอาณาจักรออตโดมัน ก็ได้เข้ามาตีเมืองและยึดครอง
แล้วได้ทรงเปลี่ยนโบสถ์คริสต์แห่งนี้เป็นสุเหร่าของอิสลามแทน
เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางครับ
วิหารแห่งนี้ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปซะแล้ว
ชื่อปัจจุบันคือ พิพิธภัณฑ์อะยาโซเฟีย (Ayasofya Museum)
ก่อนหน้านี้ ที่แห่งนี้คืออะไร.... น่าสนใจมากทีเีดียว
เริ่มแรกเดิมทีก่อสร้างขึ้นมาเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนานิกายออร์โธด็อกซ์
โบสถ์เซนต์โซเฟียหลังปัจจุบันที่ยังมีให้ชมกันอยู่นี้ ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนโบสถ์หลังเดิม
ที่ี่เสียหายพังทลายไปก่อนหน้านี้แล้วถึงสองโบสถ์
หลังแรกสุดนั้นพังทลายไม่เหลือซากก็มีการสร้างหลังที่สองขึ้นมาใหม่
ต่อมาก็พังทะลายไปอีก ยังคงเหลือไว้แต่หินอ่อนที่เป็นส่วนทางเข้าด้านหน้าโบสถ์
หลังนี้เป็นหลังที่สามที่สร้างขึ้นมาทดแทนหลังที่สองครับ
23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 532
โบสถ์หลังนี้ถูกกำหนดให้สร้างขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสวยงามกว่าโบสถ์หลังก่อนๆนี้
ทำหลังคาเป็นรูปโดม ติดกระจกสี ใช้เสาหินอ่อนขนาดมหึมา เพดานและผนังประดับด้วยโมเสค
ที่ยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้นอกจากความเก่งกาจของช่างโบราณแล้ว
งบประมาณก็ต้องมหาศาล คนที่จะสั่งให้สร้างได้ต้องยิ่งใหญ่ด้วยบารมีและอำนาจ
ว่ากันว่าต้องขนวัสดุมาจากทั่วราชอาณาจักรกันเลยทีเดียว
ต่อมากรุงคอนสแตนติโนเปิล (อิสตันบลูในปัจจุบัน)
ถูกตีเมืองและยึดครองโดยเมห์เหม็ดผู้พิชิตแห่งอนาโตเลีย
โบสถ์คริสต์ที่ยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองมาเกือบพันปีแห่งนี้
จึงถูกยึดครองและเปลี่ยนไปเป็นสุเหร่าของอิสลามแทน
มาในยุคปัจจุบันนี้ ทางการตุรกีกำหนดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ครับ

สวยงามมากเลย
ReplyDeleteสวยมากคับ
ReplyDeleteแสงสวยครับ ได้ฟิลล์ครับ
ReplyDeleteอันนี้งามครับ
ReplyDeleteลายสวยมากครับ
ReplyDeleteใช่ครับเก็บไว้ครับเสียดาย สวยดีครับ
ReplyDeleteจะมีมำมี่โผล่มาไม๊ครับเนี่ย ม้มมี่เติร์ก
ReplyDeleteสีสวยคลาสสิคครับ
ReplyDeleteมีมนต์ขลังครับ
ReplyDeleteสวยแปลกดีครับ
ReplyDeleteเป็นรูปโดม นึกถึงป้อมปราการอ่ะครับ สวยครับ
ReplyDeleteขอบคุณครับ... แล้วจะตามไปเยี่ยมชมบ้านนะครับ
ReplyDeleteมุมนี้ก้อสวยครับ
ReplyDeleteอลังการ ครับ
ReplyDeleteดูขลังมากครับ
ReplyDeleteสวยครับ
ReplyDeleteขอบคุณคั๊พ
ReplyDeleteใช่ครับฉากต่อสู้ มีโหนโคมไฟด้วย
ReplyDeleteภายในแสงน้อยแต่ก็ทำให้ดูงามจริงๆแหละครับ
ReplyDeleteขอบคุณคร๊าฟฟฟ
ReplyDeleteชอบมากมาย แหงนมองจนคอเคล็ด 555
ReplyDeleteขืนโผล่มาละก้อ... ผมคงได้กลิ้งลงมาถึงชั้นล่างแน่ๆ มันไม่เป็นบันไดนะครับ เป็นทางลาดขึ้นครับ
ReplyDeleteนึกถึงวังหรุๆด้วยครับ...
ReplyDeleteเลยเก็บไว้ทุกรูปเลยผม 555
ReplyDeleteดูแปลกๆในหัวใจดีครับ สไตล์คริสต์แต่มีป้ายอิสลามแขวนอยู่
ReplyDeleteโชคดีที่สถานที่แห่งนี้ไม่ถูกทำลายลงไปนะครับ
ีแอบขอพรจากพระเจ้าด้วยล่ะ 555
ReplyDeleteแสงช่วยเน้นให้สถาปัตยกรรมสวยขึ้นมากเลยครับ
ReplyDeleteอยู่ชมในนี้นานกว่าที่อยู่ในสุเหร่าสีฟ้าอีกครับ ที่นี่ดูมีมนต์ขลังมากกว่า
มุมสวยงามมากมายครับ
ReplyDeleteขอบคุณครับหนุ่ม
ReplyDeleteว๊าว...ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันค่า..สวยจังเลย
ReplyDeleteขอบคุณคร๊าฟฟฟฟ
ReplyDeleteต้นไม้สวยแบบแห้งๆดีค่ะ
ReplyDeleteคนที่มายึดครอง เห็นความงาม เลยทำลายไม่ลงมั้งคะ
ReplyDeleteเหมือนมองพระเจ้าบนสวรรค์
ReplyDeleteเป็นหินอ่อนฉลุลายเหรอคะ ละเอียดมากๆเลย
ReplyDeleteสีที่เกี่ยวกับศาสนามักจะเป็นสีเหลืองนะคะ ไม่รู้เรื่องทฤษฎีสีหรอก
ReplyDeleteแต่ต้องมีผลกับจิตใจของคน ให้รู้สึกสงบ ศรัทธา อะไรประมาณนี้มั้ง แหะ แหะ
คงเป็นเพราะหน้าหนาวเป็นช่วงที่ไม้ผลัดใบมั้งครับ ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน
ReplyDeleteก็มีทำลายไปหลายอยู่ครับ ในช่วงที่ลัทธิทำลายสิ่งบูชาระบาด แล้วก็เมเสคที่ติดเป็นรูปเกี่ยวกับพระเยซุและสาวกก็โดนปูนขาวฉาบทับครับ...
ReplyDeleteแต่ยังดีที่ไม่ถูกแบบทุบทำลายไปทั้งหลัง
เหมือนจะ้เอื้อมไม่ถึง ถ้าจะสัมผัสใกล้ชิดได้ต้องเชื่อและศรัทธาแรงกล้า
ReplyDeleteหินอ่อนครับ ชอบมากเลยที่เขาแกะฉลุลายได้ดูงามช้อยขนาดนี้
ReplyDeleteนั่นสิ พี่ก็ลืมนึกถึงสีที่มีผลต่อจิตใจ มาสังเกตุว่าบ้านพี่มีแต่สีส้ม เห็นแล้วรู้สึกเจริญอาหาร 555
ReplyDelete