Sunday, April 26, 2009

หมอลักษณ์ฟันธง - ราศีเมถุน ปี 2552

จาก Forward Mail ที่ได้มา (อันนี้หนูส้มส่งให้ครับ)

เห็นบอกว่าหมอลักษณ์ฟันธง.... ก็ลองดูนะครับ เผื่อจะเกิดกำลังใจมากขึ้น 

ราศีเมถุน (14 มิถุนายน 14 กรกฎาคม)
คนราศีเมถุน ปี 2552 เป็นปีที่ต้องระวังยิ่งนักครับ ถ้าเรารู้ว่าจะมีเคราะห์ต้องฟังด้วยความระมัดระวัง และวางแผนชีวิตด้วยความไม่ประมาท ข้อมูลทางโหราศาสตร์ บอกว่าคนที่เกิดในราศีเมถุนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดวงดีเหลือเกิน รุ่งโรจน์ ประสบความสำเร็จ คนในวงการบันเทิงก็มีงานล้นมือ แต่พอผ่านเข้าปี 2552 ดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็นตัวแทนของความสำเร็จ โคจรเป็นมรณะกับดวงชะตา เพราะฉะนั้นชาวราศีเมถุนดวงชะตาจะตกไปตั้งแต่ประมาณเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน หลังจากวันที่ 20 เมษายน ชาวราศีเมถุนดวงชะตาจะค่อยๆดีขึ้นครับ

เรื่องการเรียน
คนวัยเรียน ช่วงต้นปีจะมีการสอบต้องทำใจไว้ครึ่งหนึ่ง ต้องขยันอ่านหนังสือ ถ้ายังไม่เต็มที่ ขอให้ขยันมากกว่าเดิม 2 เท่า
แล้วอย่าหวังอะไรให้มาก

เรื่องการงาน
คนวัยทำงาน ที่คิดจะลงทุนขยับขยายการค้าขาย ต้นปีอย่าเพิ่งทำครับ รอให้ผ่านสงกรานต์ไปก่อน โดยเฉพาะวันที่ 20 เมษายน ตอนที่ดาวพฤหัสบดียกเข้าราศีกุมภ์ในภพศุภะแปลว่าเรือนแห่งความสำเร็จ แล้วจะดีไปจนถึงเดือนสิงหาคมครับ
หลังจากนั้นดวงจะตกอีกจนถึงปลายปี ดวงชะตาจะขึ้นๆลงๆ อย่างนี้แหละครับ หลังจากนั้นชาวราศีเมถุนจึงต้องระวังมากๆ
จะทำอะไร อย่าประมาท การเซ็นสัญญา การทำนิติกรรมสัญญาเอกสารทุกประเภท ต้องรอบคอบระมัดระวัง รัดกุม ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจต้องระวังมากขึ้นเป็นร้อยเท่าทวีคูณ จะเชื่อใจใครไม่ได้ จะถูกหลอก จะมีปัญหา ย้ำ...ดวงตกตั้งแต่ต้นปีไปจนถึงวันที่ 20 เมษายน หลังจากนั้นไปถึงเดือนสิงหาคมจะดวงดีขึ้นครับ ช่วงที่ดีๆ คือปลายเดือนเมษายน จนถึงประมาณวันที่ 11 มิถุนายน เป็นช่วงขาขึ้น หลังจากนั้นจนถึงสิงหาคม ดวงจะลงไปหน่อยแต่ไม่ถึงกับตก หลังจากเดือนสิงหาคมเป็นต้นไปเริ่มตกอีกครั้งจนถึงปลายปี เรื่องขององค์รวมการงานก็จะเป็นไปในลักษณะอย่างนี้แหละครับ

เรื่องการเงิน
การเงินนี่แปลกครับ จะมีเงินหมุนเวียนให้ใช้ได้ตลอดทั้งปีโดยไม่เดือดร้อนโดยเฉพาะในช่วงดวงตก การงานแย่ มีปัญหาแต่มีเงินให้ใช้ แปลว่าถ้าเป็นเงินกู้ยืมหรือบัตรเครดิต จะต้องระมัดระวัง เพราะการมีเงินใช้เป็นคนละเรื่องดวงตก บางคนดวงตกแต่มีเครดิตดีหรือเป็นหนี้เป็นสิน มีเรื่องของรายจ่าย ถ้าพูดถึงสภาพคล่องทางการเงิน ไม่มีปัญหา โดยเฉพาะในช่วงดวงตก
ช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน ดวงตกแต่การเงินดี องค์รวมการงานอะไรแย่หมดแต่การเงินมีหมุนเข้ามาเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น ชาวราศีเมถุนต้องบริหารเรื่องการเงินอย่างระมัดระวัง เพราะเงินนั้นเข้ามาแล้วก็ออกๆไป ไม่ถึงขนาดเดือดร้อน แต่ก็ไม่สามารถเก็บได้เป็นกอบเป็นกำครับ ที่สำคัญอย่าให้ใครหยิบยืมสตางค์ คุณจะถูกชักดาบ การสร้างหนี้สินเพิ่มเติมต้องระวัง
อาจจะทำให้คุณเดือดร้อน

เรื่องความรักและครอบครัว
ความรักของชาวราศีเมถุนที่ผ่านมาถ้าเจอใครถือว่าเป็นรักแท้ แต่ถ้าปีนี้เจอใครเป็นรักลวง เป็นรักที่คุณจะผิดหวังแล้วอาจจะทำให้ดวงตก สังเกตไหมครับชาวราศีเมถุนจะต้องได้คู่ที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้ความสามารถ พอเข้ามาในชีวิตปั๊บงานดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น แต่พอคบใครแล้วการงานแย่ ชีวิตแย่ แปลว่านั่นไม่ใช่คู่แท้ ดังนั้น ชาวราศีเมถุนต้องระวังให้ดี โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนสิงหาคมจะมีคนเข้ามา ในชีวิตแล้วจะทำให้คุณเสียหายเรื่องการงาน คู่ครองที่แท้จริงบอกแล้วต้องเป็นผู้ใหญ่กว่า เป็นคนที่มีความรู้ การศึกษาดีและเป็นคนที่อบอุ่น เป็นคนที่สามารถดูแลเราได้ อย่าแต่งงาน อย่าตกลงปลงใจในเรื่องราวของความรักในปี 2552 เป็นอันขาดมิฉะนั้น จะผิดพลาดและผิดหวัง

เรื่องสุขภาพและอุบัติเหตุ
ถ้าดูตามดวงแล้วจะเห็นได้ว่าสุขภาพย่ำแย่ พักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ขาดสมาธิในการขับรถอาจจะมีอุบัติเหตุเฉี่ยวชน เพราะหลับใน ต้องระมัดระวังสุขภาพเกี่ยวกับการรักษาผิดพลาด ถ้าป่วยขอให้ไปตรวจอีก 1 – 2 โรงพยาบาล หรือ 3 โรงพยาบาล แล้วให้คุณหมอที่มีฝีมือรักษาหรือให้ญาติพี่น้องที่รู้จักคุณหมอเป็นการส่วนตัวตรวจเป็นกรณีพิเศษ โรคที่เกี่ยวกับกระเพาะ ลำไส้ หรือก้อนเนื้อที่เกิดขึ้นบางแห่งในร่างกายโดยที่ไม่รู้ตัว หรือตรวจพบยาก ประการสำคัญ เรื่องเกิดอุบัติเหตุใหญ่ๆ เกิดเพราะตัวเองเป็นหลัก เช่น หลับใน หรือประมาท ต้องระมัดระวังยิ่งนัก

สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมดวงชะตา
ปีนี้ควรไปกราบไหว้พระแก้วมรกต พระประจำตัวชาวราศีเมถุน และหลวงพ่อโต วัดอินทรวิหารที่มีพระองค์โตยืนอุ้มบาตร
ซึ่งชาวราศีเมถุนมีพระปางอุ้มบาตรเป็นปางประจำราศีครับ จะเป็นมงคลยิ่งนัก

 

สรรพสิ่งมงคลเสริมดวงชะตา

ชาวราศีเมถุนต้องหาพระหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เป็นพระที่ป้องกันอุบัติเหตุเภทภัยจากการขับรถยนต์ครับ แคล้วคลาดปลอดภัย ควรพกไว้เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล อีกสิ่งหนึ่งคือตะกรุดวัดไหนก็ได้ทำให้แคล้วคลาดจากโพยภัยทั้งปวง

No comments:

Post a Comment