
ภาพจากวิวระหว่างทางที่ตะเกียกตะกายไปเอเวอร์เรสเบสแคมป์ฝั่งทิเบต เป็นอะไรที่ลืมไม่ลงจริงๆ ระหว่างทางสวยมาก พอไปถึงเห็นยอดเขาเอเวอร์เรส ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ภูมิใจชะมัดเลย ชีวิตนี้ได้มาถึงได้มาเห็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกแล้ว แต่ยังขาดยอดเขา K2 ที่สูงอันดับสองอีกหนึ่งยอดที่ยังไม่ได้เห็น อันดับสามและอันดับล่างๆก็เห็นมาหลายยอดแล้ว ถึงจะไม่หมดก็เห็นละน่า ^_^ ขาดแค่อันดับสองนี่ละ เฮ้อ ชีวิตนี้มีภาระเหลือเกิน ต้องหาทางไปดู K2 อีกละสิทีนี้

แต่ไอ้ที่จำจนตายจริงๆนี่คือเรื่องการนอนเต็นท์ที่เบสแคมป์นี่ละ ไม่ช่ตรงเบสแคมป์ของนักปีนเขานะครับ เป็นเบสแค้มของนักท่องเที่ยว มีชาวบ้านมารวมกลุ่มกันทำเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวพัก เป็นเต็นท์หนามิดชิดเพื่อป้องกันความหนาว ด้านในเต็นท์สามารถนอนได้ 7 - 8 คน หรืออาจจะยัดไปถึง 10 ก็ได้ ทางเต็นท์จะมีบริการอาหารและเครื่องดื่มให้ด้วยถ้าต้องการ ไม่ต้องนอนกับพื้น เขามีตั่งยาวๆตั้งเรียงกันชิดฝนังเต็นทั้งสี่ด้านเอาไว้นั่งแล้วก็นอน
ในเต็นท์มีผ้าห่มผ้านวมไว้ให้เยอะเลย คงสักยี่สิบกว่าผืนได้มั้ง มีเตรียมไว้เยอะจริงๆ เห็นแล้วก็อุ่นใจว่าคืนนี้หนาวแค่ไหนก็คงไม่เป็นไรเพราะผ้าห่มเยอะ แต่ปรากฏ ว่า.....
กรูรรรรเกือบตาย....ทรมานชิปหายเลย
ขออภัย... ต้องใช้ประโยคแบบนี้ เพื่อความกระจ่าง

ผ้าห่มไม่ช่วยอะไรได้สักเท่าไหร่ ลมไม่เข้าเต็นท์ก็จริงแต่ดึกๆมา เสียงลมที่ตีกระทบเต็นท์ดังยังกับว่าลมมันพยายามจะพังเต็นท์ให้ได้.... น้ำที่เหลือครี่งขวด 1.5 ลิตร์ เช้ามากลายเป็นน้ำแข็งก้อน ส่วนน้ำที่ยังอยู่เต็มขวดกลายเป็นเกร็ดน้ำแข็งไปทั้งขวด
อากาศหนาวสุดๆ ทำให้ปวดฉี่บ่อยมาก ก็พยายามฝืนใจอั้นไว้ อั้นกันสุดๆจนอั้นไม่ไหว ต้องออกไปนอกเต็นท์ โห... ถ้ากระแดะหน่อยก็ต้องร้อง โอว์มายก็อด บังเอิญไม่กระแดะ เลยขอบอกว่า เหี้ยยยยยยเอ๊ย...นรกแท้ๆ ทั้งลมทั้งหนาว....
ขออภัยอีกรอบ ไม่ใช่คนหยายคาย แค่เขียนให้เห็นภาพชัดๆ... (อิอิ ดูดีขึ้นไม๊ แต่คิดแบบที่เขียนนั่นจริงๆแหละ)
เอาละ ออกมาแล้ว ส้วมอยู่ไหน ส้วมอยู่ไหน.....
โน้น..... ส้วมอยู่หลังแค้มป์ ต้องเดินออกไปอีกหลายสิบเมตร
ใครจะบ้าไปละ... จัดมันหน้าเต็นท์นี่แหละ ใครออกมาทีหลังแล้วเหยียบฉี่เราลื่นล้ม ก็ถือว่าเป็นคราวซวยแล้วกันเนอะ....
คืนเดียวจัดไปสี่รอบ สุดยอด แต่ละรอบอยากจะหาที่คีบน้ำแข็งมาใช้ดึงอุปกรณ์ฉี่จังเลย ความหาไม่ค่อยเจอ หนาวจัด หดหมด v_v

มีที่แย่กว่านั้นคือก่อนนอนก็จัดวางแว่นตา ไฟฉาย น้ำขวด ไว้บนโต๊ะเตี้ยข้างๆตั่งที่ใช้นอน กะว่าดึกๆจะได้ความหาได้ง่าย.... แล้วงีบหลับไปตอนหัวค่ำ... และแล้วความซวยก็มาเยือน
อีคุณผู้ดูแลเต็นท์ หวังดีจัดของให้ใหม่ เอาไปวางรวมกับอุปกรณ์ที่โต๊ะของเพื่อนอีกโต๊ะนึง ทีนี้พอตื่นขึ้นมาเพราะหนาวมากแล้วก็ปวดฉี่ ก็ควานหาแว่น หาไฟฉาย ก็ไม่เจอสิ ทะลึ่งมาย้ายที่แถมย้ายไปอีกโต๊ะซะด้วย
ในเต็นท์มืดมากกกก มืดมองอะไรไม่เห็นเลย เพราะเขาต้องทำเต็นท์หนาแล้วก็ปิดมิดชิดเพื่อไม่ให้ลมเข้าได้ นอนบิดเพราะทั้งหนาวทั้งฉี่จะราด คิดแล้วคิดอีกเอาไงดีวะ มองอะไรไม่เห็นเลย... ยกมือตัวเองขึ้นมาดู เฮ้ย... มองไม่เห็นมือ ก็เข้าใจละว่าตัวเองดำ แต่มองไม่เห็นรูปทรงแม้กระทั่งลางๆเลย มันมืดสนิทจริงๆ มองไปมองมา เอ๊ะ... หรือว่าหนาวจนตาบอด
ตกใจละสิทีนี้.... เรื่องจริงเลย ตายละวาตาบอดแล้วจะทำยังไงกับชีวิตต่อไปละนี่ จะอยู่ยังไง มองอะไรไม่เห็น มันทรมานอย่างนี้เลยเหรอนี่.... คิดสะระตะแบบเสียขวัญไปเลยครับพี่น้อง...
ระหว่างประสาทเสียอยู่นั่นก็ลูบๆคลำๆตัวเอง บังเอิญไปคลำเจอบุหรี่กับไฟแช็คในกระเป๋ากางเกง..... เหมือนสวรรค์มีจริง เหมือนเราทำความดีไว้มาก เหมือนเกิดมาพร้อมบุญเก่าเหลือเฟือ.... รีบจุดไฟแช็คเพื่อเทสว่าตัวเองตาบอดหรือเปล่า
เฮ้อ... ประสาทแดกไปเอง ไม่ได้บอดซะหน่อย

ก็ได้แสงสว่างจากไฟแช็คนั่นแหละ หาไฟฉายกับแว่นตาจนเจอที่โต๊ะเพื่อน จากนั้นไปก็นอนไม่หลับทั้งคืน หนาว หนาว หนาว หนาว ปวดฉี่ ปวดฉี่ ปวดฉี่ ออกไปฉี่นอกเต็นท์ หนาวๆๆๆๆ วนอยู่อย่างนี้ เป็นคืนที่ยาวนานที่สุดในชีวิต
นอนมองเพดานไปเรื่อยๆ เรียกว่าแสงแรกมาพอมองเห็นเพดานหลังคาเต็นท์ ก็เหมือนกับหลุดออกจากขุมนรก ดีใจที่เช้าเสียที เสียงเพื่อนๆลุกขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง เออ... เวลาตื่นนอนตรงกันเลยนะ
พอสอบถามก็ถึงบางอ้อ ไม่มีใครนอนหลับสักคน.... ทุกคนนอนรอแสงเช้า แล้วก็ไม่กล้าลุกขึ้นมาทำเสียงดังเกรงว่าจะรบกวนเพื่อนๆที่เข้าใจว่านอนหลับอยู่

เช้าแล้วนี่ ดีใจ ออกจากเต็นท์ นั่งรถไปที่เบสแคมป์ของนักปีนเขา ไปดู อยากเห็น จุดนี้เห็นยอดเขาเอเวอร์เรสอย่างใกล้ชิด แต่หนาวมากลมพัดผ่านหู เจ็บเหมือนหูจะขาด
พอกลับมาคุณผู้ดูแลเต็นท์ก็จัดอาหารเช้าให้ (เห็นมะ...อารมณ์ดีแล้ว จากที่เรียก อีผู้ดูแลเต็นท์ ตอนดึกที่คลำหาไฟฉายไม่เจอ เปลี่ยนมาเรียกคุณในตอนเช้า ก็มันผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นไปแล้วนี่นา เลยลืมไปว่าเคยโกรธ ฮาๆๆๆ) เสร็จแล้วก็นั่งรถออกจากเบสแคมป์เพื่อเข้าสู่เมือง
*** มีเกสเฮ้าส์ที่หน้าวัด Rombok ก่อนถึงเบสแค้มป์สักสองกิโล นอนที่นั่นน่าจะทรมานน้อยกว่ามานอนเต็นท์แบบนี้นะ ตอนแรกไม่คิดอย่างนั้น คิดว่า ชีวิตมันต้องชิมประสบการณ์ใหม่ๆ ชิ... รู้งี้นอนเกสเฮ้าส์ดีกว่า ไม่น่าบ้าเลยกู

ทางเข้ามา EBC กับทางกลับออกไปสู่เมือง เราใช้เส้นทางคนละเส้นทางกัน สวยต่างกัน แต่สวยยยยย ไม่แพ้กัน ขากลับถนนไม่ดี จริงๆคือแทบไม่มีถนน วิ่งกันบนลานหินนั่นแหละ อันนี้ก็อีกหนึ่งความสุดยอด มันเป็นหินก้อนๆอยู่กับพื้นครับ ไม่ใช่ลานหินแผ่นใหญ่ๆ เป็นทางก้อนหินก้อนใหญ่ๆเหมือนหินแม่น้ำ (รูปข้างบนนี่คือรูปถนนครับผม ใครจะไปก็เตรียมใจด้วย)
เส้นทางขากลับเป็นจุดที่บรรจบกันระหว่างทะเลทรายกับเทือกเขาหิมะ....สวยยยยย ก็วิ่งผ่ากลางทะเลทรายออกมาเลย
รถวิ่งกระโดกกระเดกจนโช็คพัง แล้วดันทะลึ่งมาพังด้านที่เรานั่ง ตูดแทบพัง ก้นกบชาเหมือนจะหัก.... แถมไข้ขึ้นเพราะเมื่อคืนหนาวมากแล้วก็ไม่ได้นอนด้วย กว่าจะพ้นช่วงทรหดออกมาจนถึงถนนเรียบๆได้ ก็กินเวลาไปสองสามชั่วโมง ตอนนี้ก็ถึงคราวน็อคแล้วละครับ หลับตลอดทาง ตื่นขึ้นมาทีก็เห็นวิวสวยมากๆๆๆๆทีนึง แต่ไม่มีแรงหยิบกล้องมาถ่ายรูป ได้แต่หลับๆตื่นๆต่อไปจนถึงที่พักที่เมืองจางมู่
เรื่องมันยาวเพราะจำทุกอย่าง จำแม่นมาก...
******
ใครจะไปนอนเต็นท์ที่ EBC มีสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมไปคือ ไฟฉาย, ถงนอนระดับอุณหภูมิติดลบ (ช่วงเมษากลางคืนก็ลบเฉลี่ยห้าถึงหกองศา) เอ่อ ถุงนอนที่ขายในโลตัสนี่อย่าได้ถือไปให้ได้อายเชียว ดีไม่ดีอาจหนาวตายในถุงนอนได้, ลองห์จอนห์น อันนี้ก็สำคัญ ช่วยเก็บอุณหภูมิในร่างกายได้บ้าง ประตูน้ำ,แพลตตินั่ม ขายชุดเหมือลองห์จอห์นแต่ผ้าที่ใช้ไม่ใช่ผ้าที่จะช่วยเก็บรักษาอุณหภูมิ แค่ทำชุดผ้ายืดรูปทรงลองห์จอห์น ตอนซื้อก็เลือกเนื้อผ้าด้วยนะครับ, รองเท้าผ้าใบธรรมดากันอากาศหนาวไม่ได้ เจอมาแล้ว อากาศหนาวมากเท้าชาไปทั้งวันเลย ต้องหารองเท้าหนาๆลุยๆแบบที่พวกเทรคกิ้งเขานิยมใส่กัน รองเท้าหนาๆกันน้ำได้นิดหน่อย อย่างนั้นจะช่วยได้เยอะ, น้ำดื่มต้องซื้อน้ำขวดติดรถไปด้วย ที่โน่นมีน้ำก็จริงแต่รู้สึกว่าเขาจะเอาหิมะมาต้มหน่ะครับ น้ำมันเลยเป็นสีขาวขุ่นๆเหมือนน้ำล้างแก้วนม สุดท้าย ยาแก้ไข้ลดน้ำมูก ไทรินอล กับ ทิฟฟี่ อย่าลืมเชียว... คือว่าคุยๆกันอยู่น้ำมูกไหลเยิ้มเข้าปากไม่รู้ตัวเลยหน่ะ เป็นกันทุกคน แล้วตอนเช้าก็ไข้ขึ้น
*****
อีกเรื่องคือเรื่องส้วม ที่นี่ส้วมมีจำกัดอยู่ห่างๆด้านหลังแคมป์ เป็นส้วมหลุม รู้จักส้วมหลุมไหมครับ ก็แบบว่าขุดหลุมแล้วเอาไม้พาดวางให้เรานั่งหย่อนระเบิดนั่นละ เหม็นมาก ไม่อยากจะเว่อร์ แต่ถ้าใครทนไม่ไหวจริงๆต้องเข้าส้วมละก้อ ผ้าคาดจมูกเอาไปด้วยครับ แหะๆจริงๆอยากได้แบบหน้ากากกันกลิ่นซะด้วยซ้ำ
ที่ฮาๆคือ นอกจากเป็นส้วมหลุมแล้ว ยังเป็นส้วมรางคู่ด้วยครับ คือ 1 ห้องเข้าพร้อมกันได้สองคน นั่งคู่กันไป อบอุ่นดีพิลึก ไม่มีที่ล็อคเพราะต้องให้โอกาสคนอื่นมานั่งคู่กับเรา ผมตั้งใจว่ายังไงก็จะไม่เข้า แต่ร่างกายทรยศ ตอนเช้าดันปวดหนักและปวดมากซะอีก ก็กะว่า อึ๊บบเอาวะ กั้นใจแป๊ปเดียว ปล่อยออกสักครึ่งท้องก็ยังดี พอเปิดประตูเข้าไปเจอคนนึงนั่งอยู่ พี่แกพยักหน้าหงึกๆ ประมาณว่าเข้ามาสิอีกรางยังว่าง... เหอะ ไม่ไหวอ่ะ เลยขอตัวปิดประตูให้แล้วออกมายืนหนาวรออยู่ข้างนอก
พอคนนั้นออกมาเราก็รีบเข้าหาที่ล็อคจะได้ไม่มีคนอื่นเข้าตามมา หนอย ไม่มีที่ล็อคประตูอีก ก็... เอาวะ มันปะทุแล้ว หันกลับไปที่ราง โห....
เข้าใจอาการ "ขี้หด ตดหาย" แจ่มแจ้งก็คราวนี้เอง จะอ้วกแตก ทำธุระไม่ลงจริงๆ
ใช้วิชาอั้น แล้วบอกเพื่อนร่วมห้องว่า พอถึงโรงแรมขอจองห้องน้ำก่อนนะ
งามมากครับ
ReplyDeleteอ่านจบ มันดีครับ
ReplyDeleteชิ เที่ยวแบบพอเพียงมั่งเซ่ะเพ่ 1 ก็เห็นแล้ว 3 เห็นแล้ว
ReplyDeleteยังขาด 2 อิจฉาวุ้ย
โห บรรยายสภาพแล้วน่าเห็นใจจัง (สม อิอิ)
ReplyDeleteแต่เห็นวิวแบบนี้ มันก็คุ้มนะ
ReplyDeleteจุดนี้คงทำเลดี ดจากปริมาณธง
ReplyDeleteหรือเป็นที่บวงสรวงก่อนไปปีนเขารึเปล่า
สีสันจัดจ้านจริงๆ
ReplyDeleteภาพนี้ให้ความรู้สึกหนาว
ReplyDeleteส่วนภาพนี้ตรงข้าม
ReplyDeleteนี่เราอยู่บนโลกเดียวกันหรือเปล่าเนี่ย
ReplyDeleteสวยๆ
ReplyDeleteหวังว่าซักวัน บุ๋มคงมีโอกาสตามรอยพี่มั่ง ก็แย้มๆกะพี่อึ๋งบ้างแล้วล่ะค่ะ
ReplyDeleteขอบคุณครับ ^_^
ReplyDeleteฮาๆๆ ขออภัย รอบนี้มีคำดุเดือดไปนิด
ReplyDelete4 ไล่ลงไปถึง 10 ก็เห็นเกือบหมดแล้ว อิอิ แต่มันต้องเก็บ 1,2,3 แบบผู้ชายนับสาม สุดเขต สเรดเป็ด หน่ะ
ReplyDeleteเดี๋ยวพี่อึ๋งมาอ่านแล้วต้องพาบุ๋มไปแน่ๆ คิกคิก เตรียมร่างกายให้พร้อมได้เลย
ReplyDeleteคุ้มมากกกกก ครับ คอนเฟริม ฟันธงด้วย เอิ๊กๆ
ReplyDeleteเป็นจุดที่เห็นเทือกเขาหิมาลัยเป็นแนวยาววววมากๆๆๆๆๆ แต่พี่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเพราะไข้ขึ้นครับ แล้วตรงนี้หนาวมาก หนาวกว่าที่เบสแค้มป์เพราะลมแรงพัดจนเซ
ReplyDeleteสีมันตัดกันระหว่างความแห้แล้งกับฟ้าใสๆ
ReplyDeleteเติมคำว่ามากเข้าไปด้วยจ้า ลมแรงสุดๆเลยตรงนี้
ReplyDeleteภาพดูเหมือนร้อน แต่หนาววววววววววววววว ช่วงนี้เป็นทะเลทรายที่บรรจบกับเทือกเขาหิมะครับ
ReplyDeleteปล่าวน๊าาา ตอนนี้พี่กำลังไปเข้าเฝ้าเทพเจ้าบนสรวงสวรรค์ อิอิ นึกว่าเส้นทางสิกขิมเป็นเส้นทางแห่งเทพเจ้าแล้ว มาทิเบตถึงได้รู้ว่าของจริงอยู่ตรงนี้นี่เอง
ReplyDeleteแดดจัดๆแต่หิมะยังละลายไม่หมด
ReplyDeleteบุ๋มได้ไปแน่ครับ พี่อึ๋งไม่พลาดแน่ๆ ฝากบอกพี่อึ๋งด้วยว่า ทิเบต ไปไม่ยากแล้วก็ไม่โหดร้ายมากมายเหมือนที่รายการทีวีเขาทำมาพรีเซ้นต์กัน เพียงแต่เราอาจจะต้องเลือกเดือนที่จะไป อย่าให้หนาวจัดมาก ช่วงพฤศภาไปจนถึงกันยา กำลังดี ทางที่ดีนั่งรถไฟแบบสองวันสองคืน จะช่วยปรับสภาพร่างกายให้เรา แล้วก็อยู่ในลาซาสักสองวันก่อนที่จะไปเมืองอื่นๆ แบบว่าให้ร่างกายชินกับระดับความสูงก่อนหน่ะครับ เพราะเมืองลาซาอยู่ที่สามพันกว่าเมตรแต่เมืองอื่นๆที่เราจะผ่านไปสูงถึงห้าพันกว่าเมตรครับ ถ้าหาสมุนไพรจีน ชื่อ หงจิ่นเทียน ได้ก็กินล่วงหน้าไปสัก 1-2 สัปดาห์ก็ดี เขาใช้สำหรับช่วยเรื่องอาการแพ้ความสูงครับ
ReplyDeleteแล้วหญิงสาวที่บอบบางอย่างบุ๋มจะทนไหวหรือนี่ (ขอดัดจริตหน่อย)
ReplyDeleteขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ พี่อึ๋งบอกพี่ไหว ไปสิกขิมพี่ไม่มีอาการอะไรเลยนะ
ReplyDeleteแค่ปวดเมื่อยนิดหน่อย แน๊ะ มีทับถมกันเล็กน้อย 55
รักษาความบอบางไว้ดีๆนะ พี่เคยมี แต่กาลเวลามันมาพรากไปหมดแล้ว
ReplyDeleteถ้าซื้อทัวร์ไป เขามักจะพาไปขึ้นรถไฟที่ซิหนิง นั่งรถไฟ 1 วัน 1 คืน เพราะวิวจะสวยจัดๆก่อนถึงลาซา 1 วัน แต่จะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ค่อยทันครับ เพราะนั่งรถไฟไม่กี่ชั่วโมงก็ตะกายขึ้นที่ระดับห้าพันกว่าเมตรแล้ว จะเกิดอาการแพ้ความสูงกันทุกคน อาการหนักบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ดวง บางทีก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องอายุและความแข็งแรงนะครับ
ReplyDeleteอย่าพึ่งหมดหวังสิพี่ ทาครีมเยอะๆ หลีกเลี่ยงแสงแดด กินผักผลไม้ช่วยได้นะ แต่ดูหญิงๆไปโหน่ย โฮะๆๆ
ReplyDeleteเห็นรูปพี่แล้วอยากเปลี่ยนกล้องอ่ะ มันกว้างดีเนอะ ของบุ๋มถ่ายวิวแล้วภาพดูแค้บบบแคบ แน่นไปหมด
แต่ก็กลัวหนักคออีกอ่ะ เรื่องมากจังเนอะ
สวยงามมากครับ
ReplyDeleteชอบครับ
ReplyDeleteงามมมม
ReplyDeleteดูรูปของคุณ sudkhet ใน web TKT และตามมาดูใน multiply พอดีมี plan จะไปช่วง ต.ค. เลยอยากจะขอรบกวนสอบถามข้อมูลหน่อยค่ะ..ว่าช่วง ต.ค. จะหนาวมากมั๊ยคับ,ไปสายการบินไรค่ะ ทัวร์จองให้หรือจัดการเอง แล้วไปนอนพักที่เฉิงตูก่อนแล้วค่อยต่อรถไฟ หรือว่าพอลงเครื่องแล้วต่อรถไฟเลยค่ะ พอดีเลือกอย่างหลัง ไม่รู้จะทันหรือป่าว...งบประมาณทั้งหมดประมาณเท่าไหร่ค่ะ...
ReplyDeleteขอบคุณมากค่ะ
คุณปลาสวัสดีครับ หายไปนานเลยนะครับ ยุ่งอยู่เหรอ ไม่เห็นอัพเดทอะไรในมัลติพลายเลย หรือว่าติดอยู่ใน fb อีกคน @^_^@
ReplyDeleteต.ค ไม่แน่ใจว่าอากาศจะหนาวแค่ไหนนะครับ แต่เข้าใจว่าในเมืองคงไม่เท่าไหร่แต่ที่ EBC คงหนาวระทึกเหมือนเมษาละครับ ส่วนเรื่องตั๋วเครื่องบินจากไทยไปเฉินตู(จีน)ผมไปกับการบินไทยครับ ซื้อตั๋วเอง แล้วซื้อทัวร์จากที่โน่นโดยให้เขาจัดให้เฉพาะตั๋วรถไฟจากเฉินตูไปทิเบตและก็การเดินทางภายในทิเบตไปส่งจนถึงกาฐมัณฑุเนปาลครับ ลงเครื่องแล้วไปรับตั๋วรถไฟแล้วก็ไปรอขึ้นรถไฟเลยครับไม่ได้ค้างที่เฉินตู เวลาพอเหลือเฟือเลย เหลือเวลาพอนั่งรถเล่นชมเมืองเฉินตูได้เลยครับ แต่อยากแนะนำให้จัดเวลาค้างคืนสักคืนหรือสองคืนเพื่อหาที่เที่ยวใกล้ๆเฉินตูก่อนแล้วค่อยนั่งรถไฟเข้าทิเบต ไหนๆก็ซื้อตั่วเครื่องบินไปแล้วจะได้ไม่เสียเที่ยว ได้เที่ยวสามประเทศในทริปเดียวเลย ผมไปกัน 7 คน ค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างแล้วตกคนละ 52,000 บาท ครับ
ReplyDeleteขอบคุณมากๆๆๆค่ะ คืบหน้ายังไงจะมาเล่าให้ฟังนะค่ะ :)
ReplyDeleteขอถามเพิ่มเติมนะค่ะ เป็นไปได้มั๊ยว่าเรื่องการซื้อตั๋วรถไฟ ว่าเราจะไปทั้งหมด 11 คน แต่จะแบ่งซื้อตั๋ว Hard Sleeper กับ Hard Seat อย่างละครึ่ง แล้วค่อยสลับสับเปลี่ยนกันนั่งเอา และอีกเรื่องคือ...เรื่องการโอนเงินไปให้กับบริษัททัวร์ (www.adventuregeotreks.com) อยากรู้ว่าโอนอย่างไร เพราะต้องโอนสกุลเงินดอลลาร์ เสียค่าใช้ จ่ายการโอนอย่างไร
ReplyDeleteขอบคุณมากนะค่ะสำหรับข้อมูล
เรื่องแบ่งซื้อตั๋วคละชั้นทำได้ครับ เพราะทุกโบกี้เดินถึงกันตลอดครับ ส่วนเรื่องการโอนเงินพอดีเพื่อนเป็นคนจัดการ ไม่แน่ใจว่าตัดผ่านบัตรเครดิตหรือเปล่า เดี๋ยวผมโทรถามเพื่อนให้นะครับ ได้ราคามาเป็นยังไงมั่งครับ OK ไม๊
ReplyDeleteขอบคุณ คุณสุดเขตมากค่ะที่ให้ข้อมูลมา สำหรับรายละเอียดและราคาที่เราได้รับ มีดังนี้
ReplyDelete1.ราคาตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ-เฉิงตู (china southern airline) พวกเราหากันเอง ได้ราคา 7,700 บาท
2.ราคาตั๋วเครื่องบิน เนปาล-กรุงเทพฯ(KingFisher) เราให้ทัวร์ adventure Geo Treks ช่วยซื้อให้ ได้ราคาที่ 7,350 บาท
3.ราคาตั๋วรถไฟ กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะแบ่งซื้อ Hard sleeper กับ Hard Seat อย่างละครึ่ง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แล้วค่อยสลับกันนั่งเอา พอดีให้ทางทัวร์ adventure Geo Treks ติดต่อราคาให้ เค้าได้ราคา Hard Sleeper อยู่ที่ $115 แต่เค้าไม่ยอมบอกราคา Hard Seat
4.ค่าทัวร์ adventure Geo Treks เค้าคิดที่ $420 เริ่มใช้ทัวร์ตั้งแต่เข้าทิเบต จนถึงเนปาลค่ะ
5.เค้าคิดค่า service charge ซื้อตั๋วรถไฟให้พร้อมทำ permit เข้าทิเบต ที่ $30 ต่อคน อันนี้ไม่แน่ใจว่าทางคุณสุดเขตให้เค้าซื้อตั๋วรถไฟให้หรือป่าวค่ะและเค้าคิดอย่างไรค่ะ
6.ตอนแรกบอกกับทัวร์ adventure Geo Treks ให้เค้าจัดหารถไปส่งเราจากสนามบิน ถึง สถานีรถไฟ เค้าคิดค่าบริการเพิ่มอีก $25 ต่อคน ก็เลยว่าจะหาทางไปเองแล้วค่ะ
รบกวนคุณสุดเขตช่วยพิจารณาราคาที่เค้าให้มาหน่อยนะค่ะ ว่าเหมาะสมหรือป่าว...ขอบคุณมากค่ะ...
ได้ราคามาดีกว่าที่ผมไปนะครับผมว่า OK นะราคานี้ ค่าเครื่องบิน ค่าทัวร์ ผมว่า OK นะ ถูกม๊าก ^_^ อย่าลืมคอนเฟริมเรื่องสภาพรถและสถานที่พักกับทางทัวร์นะครับ แล้วก็อย่าลืมถามว่ารวมค่าทำวีซ่าเข้าเนปาลพร้อมรถมารับจากด่านไปส่งที่โรงแรมในกาฐมัณฑุหรือยังนะครับ
ReplyDeleteราคาตั๋วรถไฟผมเอาแบบรวมค่าทำ permit มารับที่สนามบินไปส่งสถานีรถไฟ ตั๋ว Soft Sleeper นอนห้องละ 4 คน เหมาๆคนละ 1,300 หยวน ตีเป็น US ก็น่าจะสัก 215US ครับ
Hard Seat เขาเก็บไว้ให้คนจีนกับคนทิเบตน่ะครับ แล้วก็สูบบุหรี่กันในรถควันโขมงโฉงเฉงเลยนะ ส่วนที่เป็นห้อง Hard Sleeper น่าจะห้องละ 6 คน เราก็อาจไม่ได้ตั๋วห้องเดียวกันนะครับ ลองเช็คกับทางทัวร์ว่าให้เขาจองตั๋วแบบให้ได้อยู่ห้องรวมๆกันไม่กระจายกันไปมากนักได้หรือเปล่านะครับ
การโอนเงิน โอนผ่านบัญชีธนาคาร ทางโน้นจะแจ้งมา เราโอนไปแค่มัดจำเล็กน้อยพอนะครับ ไปถึงแล้วค่อยจ่ายที่เหลือ ขึนจ่ายหมดเดี๋ยวไม่มีคนมารับละก้อ ยุ่งเลย
ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับข้อมูล ถามอีกนิดส์นึงนะค่ะ
ReplyDeleteวีซ่าเข้าเนปาล ทำจากที่เมืองไทยไปเลยได้มั๊ยคะ และที่เที่ยวในเนปาล ก่อนเดินทางกลับ มีที่ไหนแนะนำบ้างคะ เพราะกรุ๊ปของเรา จะมีเวลาเกือบเต็มวัน ก่อนที่จะเดินทางกลับช่วงเวลาประมาณสี่โมงเย็นค่ะ....” ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
เล่าเรื่องได้เห็นภาพมากเลยค่ะ
ReplyDeleteคนขี้หนาวอย่างเราจะไปได้ไหมเนี่ย
ต้องเตรียมถุงนอนแบบสำหรับ 0 องศา หรือแบบติดลบไปเลยครับ ถ้าเตรียมตัวพร้อมก็ไม่ทรมานมากครับ
ReplyDeleteสวยๆๆๆ
ReplyDeleteผมว่ามันอาร์ทมาก สวย ชอบ จนบอกไม่ถูก
ReplyDeleteเหมือนในนิยาย สวยครับ
ReplyDeleteสวยขึ้นหิ้งเรยคร๊าบ
ReplyDeleteประตูสู่ กอนดอร์ ^_^
ReplyDeleteดูนามธรรมดีจังครับ ชอบๆๆๆ
ReplyDelete^_^
ReplyDeleteงามครับ
ReplyDeleteอิ่มครับอิ่ม ^_^
ReplyDeleteรูปสวยมากค่ะ กำลังจะตามรอยเร็วๆนี้
ReplyDeleteงดงามจริงๆ ครับ
ReplyDelete