เที่ยวนครศรีธรรมราช เที่ยวนครฯนอนเพลินเชียว :P

ไปนครศรีธรรมราชกับเพื่อนสองคนครับ เที่ยวสามวันเต็มวันที่สี่เดินทางกลับค่าใช้จ่ายคนละ 3,000 บาท รวมค่าตั๋วเครื่องบินแล้วด้วย.... ถูกมากกกก ก็แบบว่าได้ตั๋วเครื่องบินไปกลับห้าร้อยกว่าบาท เป็นตั๋วจองข้ามชาติ เอ๊ย จองตอนโปรโมชั่นเมื่อหลายเดือนก่อนครับ

อัลบั้มภาพเที่ยวขนอม/นครศรีธรรมราช ดูที่นี่ครับ  http://sudkhet.multiply.com/photos/album/227/227
วันเดินทาง เหนื่อยมาก เหนื่อยสุดๆ ก็คุณชายเล่นนอนไม่ยอมตื่น ซวยละสิ ตาลีตาแหก เช็คขี้ตาเปลี่ยนเสื้อผ้าคว้ากระเป๋าวิ่งขึ้นแท๊กซี่ บอกว่า ด่วนนนนน.... เพื่อนรออยู่สนามบินแล้ว
โอโห... พี่แท๊กซี่เหยีบคันเร่งแทบมิด ขึ้นทางด่วน แซงซ้าย แซงขวา โค้งไหนๆก็ไม่กลัว ไม่ต้องลดความเร็วกันเลย
ใจฝ่อสิเรา เลยบอกพี่แท๊กซี่ว่า ไม่ทันแล้วละครับ ขับธรรมดาก็ได้... แต่พี่แท๊กซี่ไม่ยอม แกบอกว่า อีกนิดก็ถึงแล้ว สุดๆไปเลยแล้วกัน พยายามให้ถึงที่สุด แล้วแกก็กระทืบคันเร่งต่อไป
นั่งเกร็งจนเจ็บท้องน้อย เอิ๊ก...
พอไปถึงเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงกว่าเครื่องจะออก แต่เขาปิดเคาน์เตอร์เช็คอินไปแล้ว แอร์เอเชียปิดรับเช็คอินก่อนเครื่องออก 45 นาทีนะครับ
ทำไงดี ก็พี่แท๊กซี่แกสั่งว่าทำอะไรต้องพยายามให้ถึงที่สุด เอาวะ หน้าด้านแล้วกัน วิ่งไปที่เคาน์เตอร์ที่เปิดอยู่เป็นเคาน์เตอร์เช็คอินของเชียงใหม่ แซงคิวขึ้นไปเล๊ยยยย หน้าด้านมาก ไปบอกพนักงานว่าจะไปนครศรีธรรมราชแต่มาเช็คอินไม่ทันช่วยหน่อยได้ไหม อันนี้ก็หน้าด้านกว่าตอนแซงคิวอีกแฮะ พนักงานแอร์เอเชียรายนี้ใจดีดูเวลาว่าน่าจะวิ่งไปขึ้นเครื่องทันเลยเช็คอินให้ คนในแถวมองด้วยความสงสัย (หรืออย่างอื่นไม่รู้) เลยต้องหันไปพูดขอโทษทุกคน
พอเช็คอินได้ก็รีบวิ่งเข้าด้านใน โห.... ทำไมต้องทำสุวรรณภูมิให้มันใหญ่ขนาดนี้ฟระ กว่าจะวิ่งไปถึงประตูขึ้นเครื่อง ลิ้นห้อยเป็นหมาหอบแดดเลย เหนื่อยจนไม่รู้จะบรรยายยังไง ดีนะที่วิ่งไม่กลิ้งไป ฮาๆ ยังไงก็ไปทันเพื่อนที่รอต่อแถวขึ้นเครื่องพอดี
ตั้งใจไปขนอม พอลงเครื่องปุ๊ปก็นึกว่าจะมีรถบัสโดยสารเข้าเมือง เหอะ สนามบินนี้ไม่มีครับ มีแต่แท๊กซี่ ค่าเข้าเมืองคันละ 300 บาท เชอะ 300 บาท ไฮโซอย่างเรา ไปโบกรถฟรีเข้าเมืองดีกว่า
จริงๆคือความคิดของเพื่อนนะไม่ใช่ของผม แต่ผมเป็นพวกตามใจเพื่อน @^_^@ เลยออกไปดูที่ลานจอดรถว่ามีรถกะบะคันไหนจะวิ่งเข้าเมืองมั่งจะได้ขออาศัยไปหน่อย พอดีมีเจ้าของรถคันหนึ่งกับ รปภ. พยายามเอามอร์เตอร์ไซด์ขึ้นรถ เพื่อนเลยเนียนวิ่งเข้าไปช่วย ส่วนเราก็เนียนๆเดินช้าๆ มาถึงเขายกมอร์เตอร์ไซด์ขึ้นรถเสร็จแล้ว จากนั้นก็เนียนต่อขอติดรถเขาเข้าเมือง อิอิ
เอาละเข้าเมืองได้ ก็เดินๆถามทางไปคิวรถตู้ที่จะไป อ.ขนอม ระหว่างนั้นเจอตลาดก็แวะกินข้าวแกงปักษ์ใต้ซะเลย รถเด็ดจัดจ้านถึงใจ ราคาชาวบ้านจริงๆ
รถตู้ไป อ.ขนอม ค่ารถ 80 บาทครับ นั่งรถไปสักชั่วโมงกว่าๆเกือบสองชั่วโมง ระยะทางจากเมืองไปก็ประมาณ 100 กิโลเศษๆ จริงๆแล้วไปลงเครื่องที่สุราษฏร์แล้วนั่งรถมาขนอมจะใกล้กว่าลงเครื่องที่นครศรีฯอีกนะ อีกวิธีที่สะดวกก็นั่งรถทัวร์เลยครับ มีรถกรุงเทพ-ขนอม (ขนอมอยู่ห่างจากท่าเรือเฟอร์รี่ไปเกาะสมุยแต่ยี่สิบกิโล ใครจะไปเที่ยวต่อที่สมุยก็สะดวกครับ)
เราลงรถในตลาดที่ อ.ขนอมแล้วก็เรียกมอร์เตอร์ไซด์รับจ้างไปส่ง ที่พักที่ขนอมมีเยอะครับ มีตั้งแต่หรูมากๆยันโฮมสเตย์แบบชาวบ้านชาวบ้านเลย
ปกติจะจองที่พักผ่าน Agoda แต่รอบนี้เราไม่ได้จอง กะไปหาเอาข้างหน้า ก็ให้มอร์เตอร์ไซด์รับจ้างแนะนำ บอกเขาว่า "ขอติดหาด พักสบาย ราคาไม่แพง" พี่กัปตันมอร์เตอร์ไซด์จัดให้ พาขี่เลาะถนนไปเรื่อย ตรงไหนสวยๆหรูๆ เราเชิดใส่ ฮา....
สุดท้ายก็พามาที่ ในเพลาเบย์ รีสอร์ทคนขับมอร์เตอร์ไซด์เรียกค่ารถมาส่ง 140 บาท ต้องรีบๆจ่ายไป เดี๋ยวเพื่อนโวย ระยะทางแค่ห้าหกกิโล ค่ารถน่าจะประมาณ 80 - 100 เท่านั้นแหละ
อันนี้ได้ใจ.... พื้นที่รีสอร์ทกว้างขวาง เป็นรีสอร์ทเก่าแก่ดั้งเดิมของที่นี่ อยู่ติดหาดยาว 300 เมตร เดินต่อเนื่องไปยังหาดอื่นได้อีก เขาเปิดมาแล้วเกือบสามสิบปี บริเวณรีสอร์ทร่มรื่นครับ แต่ร่มรื่นด้วยต้นมะพร้าว ก็ต้องระวังกันนิดเนอะ...
ที่พักเป็นบังกะโลเป็นหลังๆ ถึงจะเก่าแล้วแต่ก็ได้รับการดูแลอย่างดี สะอาดแล้วก็ไม่มีอะไรเสีย ประตู หน้าต่าง แอร์ ทีวี ชักโครก ฝักบัว ใช้ได้ดี มีข้อเสียอยู่สองอย่าง เครื่องทำน้ำอุ่นมันลืมตัวอัพเกรดเป็นเครื่องทำน้ำร้อน แถมปรับไม่ได้เพราะปุ่มปรับถูกถอดออก อีกเรื่องคือไม่มีตู้เย็น นอกนั้นก็ OK ครับ มีระเบียง มีเก้าอี้นั่งเล่นที่ระเบียง ให้ออกไปรับลมชมวิวทะเล
เราเข้าพักวันศุกร์จ่ายค่าที่พัก 600 บาท แต่เหมือนเหมารีสอร์ท เพราะมีแขกอยู่คือเราหลังเดียว อีกแระ...อิอิ 600 ได้หาดส่วนตัวยาวกว่า 300 เมตร คิกคิก แต่คืนวันเสาร์มีคนเข้าพักเพิ่มอีกหลายหลังเหมือนกัน จริงๆวันเสาร์น่าต่อราคาเหลือ 400 เนอะ เพราะต้องแบ่งหาดให้คนอื่นมาเดินด้วย แค่คิดเล่นๆน๊า ไม่ใช่คน งก ขนาดนั้น แต่มีการต่อรองขอให้เขาหารถเข้าไปส่งที่คิวรถตู้กลับเมืองนครฯ เขาก็ใจดีนะครับจัดให้ขอค่าน้ำมันให้คนขับรถร้อยเดียว OK เลย ชอบๆไม่ตั้งนั่งมอร์เตอร์ไซด์แถมถูกกว่าอีกด้วย
ภาระกิจที่ขนอม คือ กินกับนอน ร้านอาหารที่ ในเพลาเบย์ รีสอร์ท อร่อยและก็ไม่แพงครับ เขาพิถีพิถันทำให้นะ ไม่ใช่ว่าจะทำๆแล้วตักใส่ถ้วยใส่จาน ถึงมีลูกค้าอยู่แค่สองคนเขาก็ทำเต็มที่ครับ ตกแต่งจาน จัดเครื่องเคียงมาให้แบบจัดเต็ม อันนี้ต้องชมจริงๆ แต่ที่ต้องติงคือเปิดสายและปิดไว เปิดแปดโมงเช้า ปิดหกโมงเย็น อะไรหว่า.... มันเป็นช่วงที่ลูกค้ากินข้าวนะนั่น งง จัง
แต่ไม่เป็นไร เดินออกจากรีสอร์ทมาหาอะไรกินข้างนอก ก็อร่อยเหมือนกัน แล้วคนที่ขนอมเขาใจดีนะครับ พูดคุยน่ารักเชียว
ว่างจากนอน ก็ออกเดินตะลอนๆไปตามถนนเลียบทะเล ขากลับก็ลงเดินที่หาด เดินเลียบมาเรื่อยๆจนถึงที่พัก ก็แบบว่าเดินรีดไขมันหน่ะ เดินไปกลับสักสิบกว่ากิโล น้ำหนักลดลงได้สักขีดนึงมั้ง แต่มาเติมด้วยอาหารอร่อยๆซะเกินไอ้ที่ลดไปมากเลย v_v
เสียดายไปช่วงหน้าฝน ฟ้าไม่แจ่ม ทะเลไม่สว่างสวยใส แต่ก็ได้อารมณ์เหงาๆเงียบๆดีครับ
วันสุดท้าย เรากลับเข้ามาในตัวเมือง ได้ที่พักที่เจอเขาแนะนำไว้ในเว็บ ชื่อโรงแรมแกรน นครา จริงๆแล้วไม่จัดว่าเป็นโรงแรมนะ น่าจะประมาณ Hostel มากกว่านะครับ คือเล็กๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานแค่นั้น ตัวโรงแรมดัดแปลงมาจากตึกแถวสองคูหา แต่จัดตกแต่งไว้น่าอยู่เชียว ค่าที่พักถูกมากเลย 490 บาทต่อคืน ภายในห้องก็เป็นห้องไม่กว้างมากนักแต่ก็สะดวกสบายไม่คับแคบจนเกินไป ตกแต่งสวย น่านอน มีโต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เก็บเสื้อผ้า ทีวี ตู้เย็น แอร์ มีไวไฟให้ใช้ฟรี ห้องน้ำชักโครก เครื่องทำน้ำอุ่น ครบครับ
ไม่มีลิฟ ชั้น 3 ราคา 490 ชั้น 4 ชั้น 5 จะราคาถูกกว่าครับ
โรงแรมนี้อยู่ตรงข้ามกับโรบินสันครับ ถ้าเราหันหลังให้โรบินสินทางเข้าจะอยู่ด้านซ้ายมือ เป็นถนนเข้าหมู่บ้านราชพฤกษ์ มีราชพฤกษ์ไนท์พลาซ่า (แต่น่าจะเจ๊งไปแล้ว) อยู่ด้านหน้าเลย เราเดินตามถนนเข้าไปประมาณร้อยเมตร จุดสังเกตุคือป้ายชื่อร้านอาหาร ร้านข้าวปั้น โรงแรมจะอยู่ถัดจากร้านข้าวปั้นแต่มองไม่เห็นป้ายโรงแรม ต้องเดินให้ถึงโรงแรมแล้วแหงนหน้ามองจึงจะเห็น อันนี้ก็แปลก ไม่ทำตัวโดดเด่นเลยผิดวิสัยการทำธุรกิจจริงๆเลย
ถ้าต้องการแค่ความสะดวกสบาย ไม่ได้ต้องการโชว์รวยอะไรมากมายนัก ที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวครับ
ในเมืองเรามีเวลา 1 วันเต็มๆ เดินครับ เดินๆๆๆๆๆ สถานที่น่าสนใจในเมืองก็กำแพงเมืองเก่า อยู่ใกล้ๆกับศาลหลักเมือง พระวิหารสูง อนุสาวรีย์ ร.5 เดินต่อไปก็จะผ่านไปยังวัดเสมาเมือง หอพระอิศวรที่อยู่ตรงข้ามกับหอพระนารายณ์ ฯลฯ เดินไปไกลอีกหน่อยก็ถึงวัดพระมหาธาตุ (นั่งรถสองแถวไปดีกว่านะ 10 บาทเอง)
วัดพระมหาธาตุปิดสี่โมงเย็นนะครับ ต้องรีบๆไปกันหน่อย ไม่งั้นได้แค่ดูจากภายนอกไม่ได้เข้าไปสักการะด้านในเสียดายโอกาสนะครับ
หลังจากย่ำตะลอนเที่ยวชมสถานที่ต่างๆในเมืองจนค่ำ เราก็ ก็ ก็ เดินกลับโรงแรม เฮ้อ ไขมันละลายอีกแล้ว โชคดีที่ด้านหน้าทางเข้าโรงแรมเป็นโต้รุ่ง มีอาหารและขนมหลากหลายให้เติมเต็มไขมันอันเป็นที่รักยิ่ง หรือในห้างโรบินสันก็มีร้านอาหารและก็ฟาสฟู๊ดมากมาย ร้านน้ำชาชื่อดังของจังหวัดคือร้านโกปี๊ ก็อยู่ตึกแถวข้างๆโรบินสันนะครับ แต่ต้องไปจิบชาตอนเช้าครับค่ำๆคงปิดไปแล้ว
เราให้ทางโรงแรมติดต่อรถไปส่งสนามบินตอนเช้า ค่ารถเรทราคาเดียวกันกับค่าแท็กซี่จากสนามบินเข้าเมืองครับ 300 บาท เป็นแท๊กซี่ป้ายดำ ก็รถเก๋งขับมาส่งนั่นแหละครับ บริการดีครับ มารอเราล่วงหน้าก่อนเวลาพอสมควรเลย
ทริปนี้ กิน นอน เดิน สามวันเต็มใช้เงินสามพัน ถือว่าคุ้มมากเลยครับ
รีวิวโรงแรมแกรนด์ นครา มีรายละเอียดและรูปประกอบให้ชม ดูที่นี่นะครับ http://sudkhet.multiply.com/reviews/item/6
อัลบั้มภาพเที่ยวขนอม/นครศรีธรรมราช ดูที่นี่ครับ  http://sudkhet.multiply.com/photos/album/227/227