
เวียงจันทร์
19 กุมภาพันธ์ 2551
ภาษาอังกฤษจะเรียก Vientiane วิธีที่ประหยัดและสะดวกที่สุดสำหรับคนกรุงเทพฯ คือ ขึ้นเครื่องบินกรุงเทพฯ – อุดรธานี ไฟท์ 6 โมงเช้าของนกแอร์ ไปถึงสนามบินอุดรฯประมาณ 7 โมงเช้า ซึ่งถ้าเรามีหมายกำหนดการแน่นอนแล้วการซื้อตั๋วล่วงหน้านานๆจะประหยัดกว่า ผมจองตั๋วล่วงหน้า 3 สัปดาห์ทางเว็บไซต์ของนกแอร์ www.nokair.com ได้ตั๋วไปกลับในราคาเพียง 2,180 บาทเท่านั้นเอง แต่ถ้าจองหลังจากนั้นราคาจะสูงขึ้นอีกเป็นพันทีเดียว แต่ละเที่ยวบินและแต่ละวันราคาตั๋วเครื่องบินจะไม่เท่ากัน ให้เลือกเที่ยวบินและวันเดินทางที่เหมาะกับเวลาของเราที่สุดแล้วกัน
สำหรับผมเลือกวันและเที่ยวบินที่ได้ราคาถูกสุดก่อน แล้วค่อย plan เรื่องอื่นๆตามหลังอีกที เมื่อถึงสนามบินอุดรแล้วก็ไปซื้อตั๋วรถตู้ที่เคาน์เตอร์ลิมูซีนในสนามบิน บอกพนักงานว่าไปคิวรถอุดรฯ-เวียงจันทร์ ค่าตั๋วรถตู้ 60 บาท รถตู้จะออกจากสนามบินไปส่งที่บขส.เก่า ซึ่งเป็นคิวรถไปลาว ซึ่งปกติก็จะไปทันรถรอบ 8 โมงเช้า ค่าตั๋ว 80 บาท เป็นรถบัสติดแอร์มุ่งหน้าไปที่ด่านข้ามแดนที่ จ.หนองคาย ซึ่งจะต้องผ่านสองด่านคือ ด่านไทยและด่านลาว รถบัสจะจอดรอจนผู้โดยสารทำเรื่องผ่านแดนไทยเสร็จและกลับขึ้นรถครบทุกคนแล้วจึงข้ามสะพานไปผ่านด่านลาวอีกที ที่สำคัญคือต้องมีพาสปรอ์ตที่มีอายุเหลือนานกว่า 6 เดือน หากพาสปอร์ตใกล้หมดอายุหรือเหลือต่ำกว่า 6 เดือน คุณต้องทำเรื่องขอวีซ่าที่ด่านลาว รถบัสจะไม่รอเพราะต้องใช้เวลาอีกนานทีเดียว รวมเวลาที่ใช้ทั้งหมดตั้งแต่ขึ้นรถทำเรื่องผ่านแดนจนลงรถที่คิวรถตลาดเช้าของเมืองเวียงจันทร์จะใช้เวลาโดยรวมประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ประมาณ 10 โมงเช้าถึง สามารถเหมารถสามล้อเที่ยวรอบเมืองเวียงจันทร์ได้ในราคา 400 บาท สถานที่เที่ยว คือ ประตูชัย, พระธาตุหลวง, วัดสีสะเกด, หอพระแก้ว, พิพิธภัณแห่งชาติ, วัดศรีเมือง, วัดองค์ตื้อ. วัดมีชัย, ทานข้าวริมน้ำโขงที่ถนนเจ้าฟ้างุ้ม หากจะเที่ยวที่วังเวียงหรือหลวงพระบางด้วยแนะนำให้ไปที่เมืองนั้นก่อนวันสุดท้ายตอนกลับค่อยแวะเที่ยวเวียงจันทร์ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็เที่ยวชมครบแล้ว

ลุยเดี่ยวเลยเหรอคะ
ReplyDeleteฟ้าใสดีจัง
ReplyDeleteสวยจัง
ReplyDeleteชอบเป็นการส่วนตัวครับ จังหวะดีมากครับ
ReplyDelete^_^ ฟลุ๊คเหมือเคยครับ...
ReplyDeleteชอบ...
ReplyDeleteิอันนี้เป็นจังหวะฟลุ๊คๆอีกแล้ว ยกกล้องแทบไม่ทันเณรน้อยเดินเข้าโบสถ์ ภาพก็เลยไม่ชัดอีกตามเคยครับ
ReplyDelete