
ก็จั่วหัวไว้แล้วไงว่ามันหรูเหมือนกับเป็นวังเก็บน้ำเลยหน่ะ...
อุโมงค์ส่งน้ำอะไรกันนี่ สร้างได้ี่เหมือนวังหรูๆเลย
ทั้งๆที่เป็นแค่อุโมงค์ส่งน้ำใต้ดินแท้ๆ
แล้วก็กักเก็บน้ำไว้ได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตรเชียวนะ เก็บไว้ให้ผู้คนได้ใช้ทั้งเมือง
แต่จริงๆแล้วก็ทำไว้ใช้ในวังหละมั้ง ชาวบ้านคงไม่มีโอกาสหรอกครับ
เขาใช้เก็บน้ำไว้ใช้ในวังตั้งแต่ยุคสมัยไบเซนต์ไทน์
ต่อมาเมื่อกรุงคอนสแตนติโนเปิลถูกออตโตมันตีแตกกระจาย
อุโมงค์ส่งน้ำที่นี่เลยถูกทิ้งร้างไปร้อยกว่าปี
แล้วอยู่ๆคนฝรั่งเศสก็ไปค้นพบ อุโมงค์นี้เลยได้รับการบุรณะมาใช้งานอีกครั้ง
คราวนี้ใช้เก็บน้ำไว้ใช้ในพระราชวังทอปกาปี
บอกแล้วไง ชาวบ้านไม่ได้ใช้กันง่ายๆร๊อก
เรียกกันว่า Basilica Cistern เป็นอุโมงค์ส่งน้ำที่เก่าแก่ มีอายุถึง 1,500 ปี
และใหญ่ที่สุดในตุรกี (ที่ตุรกีนี่มีอุโมงค์ส่งน้ำหลายแห่งนะ)
ยังอยู่ในย่านฮิปโปโดม ครับ... ถ้าเราหันหน้าเข้าวิหารเซนต์โซเฟีย
Basilica Cistern จะอยู่ด้านซ้ายมือ เดินข้ามถนนมาก็ถึงแล้ว
วันแรกที่มาเดิน เดินหาไม่เจอ
ก็เพราะมันอยู่ใต้ดิน แล้วก็มีป้อมเล็กๆเป็นที่ขายตั๋วแล้วก็ทางลง ก็ไม่ได้สังเกตุป้ายอ่ะ
ไม่อยากจะบอกว่าเราหน่ะเดินผ่านตั้งหลายรอบ
เรียกว่าเดินเหยียบผ่านหลังคามันไปเลย เพราะด้านบนที่เป็นพื้นดิน
เขาทำเป็นสวนหย่อมไว้นั่งเล่นพักผ่อน เราก็เดินตัดผ่านไปมา นั่งพักเหนือยและดื่มน้ำ
ล่าสุดเราียังไปนั่งเล่นข้างๆป้อมที่เก็บตั๋วด้วยซ้ำ 555
เสร่อเบ๊อะจริงๆเลยหน่ะ
แต่ยังไงก็หาจนเจอแหละ...
ทึ่งว่าเขาจะต้องทำอุโมงค์นี่ให้สวยไปทำไม แถมยังจะมานั่งแกะสลักฐานเสาอีก
ทั้งๆที่เสาและฐานพวกนี้สุดท้ายต้องจมอยู่ในน้ำแล้วก็ไม่ใช่ที่สำหรับให้ใครลงไปชมความงาม
แต่คนโบราณนี่เขาเอาศิลปและความเชื่อเข้าไปสอดแทรกไว้ในทุกๆสิ่งจริงๆนะครับ
ในไทยก็เหมือนกัน ลองสังเกตุเสาไฟเก่าๆ, ตู้ไปรษณีย์เก่าๆ ตึกแถวเก่าๆ
หรือแม้แต่สะพานเก่าๆ ลองสังเกตุเทียบกับของที่สร้างใหม่ดูสิครับ
รู้สึกสะท้อนใจว่ารุ่นเรานี่ใช้งบประมาณในการกำหนดแบบ
ไม่ใช่ใช้ศิลปในการสร้างสรรสิ่งต่างๆอีกต่อไป
มาดูภาพอุโมงค์ส่งน้ำแห่งนี้ดีกว่า บ่นมากไปเดี๋ยวจะมีใครหาว่าเป็นตาแก่ซะปล่าวๆ
ไอ้เราก็เพิ่งย่างเข้าสู่วัยรุ่นแท้ๆ (ถึงจะเป็นรุ่นแย้มฝาโลงก็เหอะ 555)
ภาพมีไม่เยอะ เพราัะมันมีแต่เสา เอาเป็นว่าชมพอให้รู้ว่าข้างล่างมันเป็นยังไงก็แล้วกันเนอะ

อล้งการสวยงามมากครับ
ReplyDeleteแล้วจะเข้าชมอย่างไรครับ สามารถเดินเข้าไปได้ใช่มั้ยครับ
อ่านคำอธิบายแล้ว สุดยอดครับ
ReplyDeleteหรูหราจริงๆ
ReplyDeleteวัง อันเดอร์กราว จิงๆครับ หรูอลังการมาก
ReplyDeleteน่าให้นั่งเรือชมนะครับ
ReplyDeleteเป็นความเชื่อที่น่าสนใจครับ
ReplyDeleteอืม ดูๆไป สงสารเมดูซ่าเหมือนกันนะครับ โดนจับหัวกดน้ำซะงั้น
ReplyDeleteเขาทำเป็นสะพานทางเดินปูนไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเดินชมได้โดยทั่วครับ
ReplyDeleteปรับระดับน้ำไว้พอประมาณต่ำกว่าทางเดินนิดหน่อย แล้วก็เลี้ยงปลาคราฟไว้ในนั้นครับ
ขอบคุณครับ... อยากให้คนที่เตรียมตัวจะไปหรือคนที่ยังไม่มีโอกาสได้ไป ได้เข้าใจเรื่องราวคร่าวๆก่อนหน่ะครับ
ReplyDeleteแสงไฟที่เขาจัดไว้ ช่วยทำให้ดูหรูขึ้นอีกครับ เข้าไปแล้วเหมือนเป็นอีกมิติหนึ่งเลย นักท่องเที่ยวทุกคนเดินชมกันเงียบๆโดยไม่รู้ตัว ทำให้บรรยากาศยิ่งแตกต่างจากการเที่ยวชมสถานที่อื่นเยอะเลยครับ
ReplyDeleteจริงๆน้ำต้องท่วมเสาทั้งหมดนะครับ เพราะในนี้เหมือนถังเก็บน้ำขนาดใหญ่นะครับ ผมก็เลย งง งง ว่าทำไมเขาต้องทำหรูด้วย ยังสงสัยเลยว่าคนโบราณเขาทำไว้เก็บน้ำจริงๆเหรอ หรือมีวัตถุประสงค์อื่นกันแน่ แล้วในยุคเมื่อ 1,500 ปีที่ผ่านมา เขาสามารถสร้างสิ่งหรูหราได้ขนาดนี้ น่าทึ่งจริงๆ
ReplyDeleteผมหมุนไม่รอบหน่ะ สงสัยนิ้วสั้น 5555
ReplyDeleteนั่นสิ... นิสัยมนุษย์เวลาทำกับศัตรูหรือฝ่ายตรงข้ามนี่ โหดได้ใจทีเดียวเลยนะ
ReplyDeleteสวยงามจริงครับ เคยเห็นรายการทีวีไทยเราไปถ่าย สวยเลย อบากไปมั่งแล้วครับ เคยแต่เหยียบอิสตันบูอ่ะ
ReplyDeleteครับลงตัวครับ ทั่งหัวเสาและเพดานเยี่ยม
ReplyDeleteถ้าเมดูซ่าลืมตา ผมคนนึ่งละที่จะลืมกล้อง ทิ้งกล้องเอาตัวรอดครับ 555
ReplyDeleteเสียดายๆ แวะเปลี่ยนเครื่องที่อิสตันบลูคราวหน้า อย่าลืมให้เวลาที่นี่สักสามสี่วันนะครับ
ReplyDeleteรับรองว่าคุมค่าเสียเวลามากเลยครับ
ส่วนผมก็คงแข็งเป็นหินไปตั้งแต่เมดูซ่าขยับเปลือกตาแล้วล่ะ ฮาาาาาาา
ReplyDeleteก็หวังว่าจะ่ไม่มีลอยเปียกบนกางเกงให้อับอายหน่ะครับ 555
สบายดีไหมครับไม่ค่อยได้เข้ามาเลย
ReplyDelete555 หายไปนานสงสัยงานยุ่งมากใช่ไหมครับนี่
ReplyDeleteบ่นมากไปเดี๋ยวจะมีใครหาว่าเป็นตาแก่ซะปล่าวๆ
ReplyDelete// พึ่งผ่านวันผู้สูงอายุมาเองน้า
อลังอ่ะน้า
ReplyDeleteงามจริง จริงค้า
ReplyDeleteเค้าลืมตกแต่งบันไดป่าวน้า
ReplyDeleteน้า แบบโครินเธียนนี่กลับหัวเหมือนรูปแรกป่าวอ่ะ
ReplyDeleteน้าไปขออะไรที่เกินความสามารถเจ้าตุรกีป่าวถึงหมุนนิ้วไม่รอบอ่ะ
ReplyDeleteกลัวงูบนหัวเมดูซ่ามากกว่าอ่ะ
ReplyDeleteเค้าใช้หินก้อนเดียวเลยรึป่าวน้า
ReplyDeleteที่นี่เคยใช้เป็นฉากในหนังเจมส์บอนด์ด้วยนะ ตอน Greeting from Moscow
ReplyDelete============================
ไม่เคยได้ยินเลยอ่ะชื่อตอนนี้ สงสัยเกิดไม่ทัน
อย่าย้ำ อย่าย้ำ มีเคือง 5555
ReplyDeleteแสงช่วยนะครับ ทำให้ดูมลังเมลือง มากขึ้น
ReplyDeleteบันไดเป็นบันไดใหม่ทำให้นักท่องเที่ยวเข้าชมครับ
ReplyDeleteไม่ได้กลับหัวครับ เป็นแบบปกติครับ
ReplyDeleteขอคู่แท้อ่ะ... หมุนไม่รอบเลย 5555
ReplyDeleteแล้วไม่กลัวงูบนหัวหนุ่มๆเหรอ
ReplyDeleteปล.อย่ากลับมาตอบว่าหนุ่มๆไม่กลัวกลัวแก่ๆ นะฮื่มมมม
เข้าใจว่าใช่ครับ ^_^
ReplyDeleteจากชื่อเดิมคือตอน From Russia With Love สร้างตั้งแต่ปี 1963
ReplyDeleteแต่หนังเจมส์บอนด์นี่แต่ละประเทศจะมาตั้งชื่อตอนตามแบบของตัวเองครับ
ตอนเดียวกันนี้แต่มีชื่อต่างๆ เช่น
Germany: Love Greetings From Moscow
France: Hearty Kises From Russia
Italy: To 007, From Russia With Love
Belgium: Love and Kisses From Russia
Sweden: Agent 007 Sees Red
Denmark: 007 Is Being Chased
Finland: 007 In Istanbul
Brazil: Moscow Against 007
Argentina: From Russia with Love (The Return of 007)
นอกจากกฉากในนี้แล้วก็ยังมีฉากในวิหารเซนต์โซเฟีย และพระราชวังอื่นๆในอิสตันบลูด้วยนะ
น้าก็เกิดไม่ทันนะจ๊ะ เข้าไปหาข้อมูลในเว็บมาให้อ่ะ
ภาพนี้เห็นถึงศิลปแบบโครินเธียนได้ชัดสุด
ReplyDeleteสังเกตุที่ตัวเสาจะเรียวขึ้นไปด้านบนและหัวเสาจะมีการแกะสลักไว้หรูหรา
หัวเสาแบบโครินเธียนจะแกะเป็นลวดลายใบไม้นะครับ
เดี๋ยวจะงงกัน ศิลปสถาปัตย์แบบกรีก มีจุดสังเกตุหลักๆที่เด่นชัด 3 แบบ นะครับ
แบบแรกแบบดั้งเดิมเลยคือ แบบดอริค - เรียบๆไม่หรูหราเน้นที่ความมั่นคงแข็งแรง
แบบที่สองพัฒนามาจากแบบแรก คือ แบบไอโอนิก - เสาเล็กเรียวมากกว่าแบบแรก หัวเสาม้วนโค้ง อ่อนหวาน
แบบที่สามพัฒนาต่อจากแบบที่สอง คือ แบบโครินเธียน - แบบที่สามนี้พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มเน้นความหรูหราอลังการณ์ เสาเล็กและเรียวลงอีก หัวเสาแกะสลักเน้นความหรูหราด้วยลวดลายใบไม้ครับ
ดูขลังๆ
ReplyDeleteจ๋วย แบบขนลุกๆ
ReplyDeleteแสงงามมๆ
ReplyDeleteเอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆ
ReplyDeleteเดินๆอยู่แล้วเมดูซ่ามาดักหน้าล่ะก็ กรี๊ดแตกแน่ 555
ReplyDelete้อ้าวหัวเราะเยาะเมดูซ่าซะอย่างงั้น
ReplyDeleteคนไทยไม่ได้ให้งบประมาณมากำหนดการสร้างสิ่งสาธารณะหรอกคัฟฟฟ
ReplyDeleteถ้าเปิดโอกาสให้ขี้คร้านจะมีคนขอทำให้ฟรี ไม่ว่าจะออกแบบอะไรๆ ใครก็อยากมีบ้านเมืองสวยงามเปนศิลปะ
แต่เจ้าภาพติดที่กลัวคนอื่นจะทำดีกว่าแล้วได้หน้าเกินตัวเองตะหาก 555
เฮ้อ... ถ้ายอมลงทุนทุ่มทุนสร้าง มันจะเป็นมรดกให้ลูกหลานได้เก็บกินไปหลายชั่วโคตรเลยนะ
ReplyDeleteหลายๆประเทศเขามีสมบัติให้ลูกหลานเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวไว้กินไว้ใช้
ของเรานี่ เฮ้อ อีกทีแล้วกัน