
บินไปขึ้นรถไฟที่เฉินตู ประเทศจีน เป็นรถไฟสายที่สูงที่สุดในโลกแถมวิวยังสวยอีกตะหาก ใช้เวลาบนรถไฟ 2 คืนกับอีก 2 วัน แต่ไม่เบื่อเลย นั่งชมวิวกันไปเรื่อยๆ
คืนแรกตื่นมามีอาการวิงเวียนนิดหน่อย อาจเป็นเพราะว่านอนเตียงบนเลยโยกเยกมากกว่าเตียงล่าง รู้สึกหน้าชาๆ แต่พอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ดีขึ้น คืนที่สองตื่นมาวิงเวียนมากกว่าเดิมเพราะว่าคืนนี้รถไฟขึ้นที่สูงมากขึ้น รถโยกเยกตลอดคืน เช้าๆรู้สึกเหมือนอยากจะอ้วก แต่พอสายๆก็หาย
วิววันแรกสวยแต่วันที่สองสวยกว่า ภายในรถก็ OK เลย ระบบปรับอากาศดี มีท่ออ๊อกซิเจนให้ด้วยทั้งตรงทางเดินและที่หัวนอน อาหารบนรถไฟก็อร่อยครับ
จะซื้อตั๋วรถไฟสายนี้ต้องมี permit จากทางจีน โดยเราต้องติดต่อให้เอเจนซี่ทัวร์เป็นผู้ทำให้ เราไม่สามารถทำเองได้นะครับ ค่ารถไฟ 1,065 หยวน แต่มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการทำ permit และค่าบริการของทางเอเจนซี่ทัวร์ที่โน่น รวมแล้วเบ็ดเสร็จ 1,300 หยวน ก็ประมาณ 6,500 บาท รวมมีรถมารับที่สนามบินไปส่งที่สถาณีรถไฟด้วยครับ

อยากแนะนำ:
ถึงจองตั๋วล่วงหน้า แต่ก็มักจะได้เตียงคนละห้องกัน เราไปกัน 7 คน ได้ตั๋วกระจายไปนอนกันคนละห้อง ลำบากสำหรับผู้หญิงและคนที่ไม่ชอบแยกจากเพื่อน อย่างนี้ก็ต้องอาศัยความใจกล้าขอแลกห้องกับคนอื่นเขาเอาเองครับ - ยังไงลองย้ำกับทางเอเจนซี่ที่ซื้อตั๋วให้แล้วกันนะว่าต้องการนอนในห้องเดียวกัน เผื่อเขาจะสามารถจัดการให้ได้
นั่งรถไฟ 2 วันไม่ต้องกลัวอด มีอาหารที่ตู้เสบียง และมีรถเข็นมาขายเป็นระยะตามเวลาอาหาร เช้า กลางวัน เย็น ราคาแพงกว่ากินมาม่าแต่ก็ไม่แพงเลยถ้าเทียบกับการเข้าฟาสฟู้ดในไทย - อาหารอร่อยดีทีเดียวเชียวขอโปรโมท มีผลไม้ เครื่องดื่มและน้ำอัดลมต่างๆ จัดจำหน่ายด้วย
บนรถไฟมีจุดบริการน้ำร้อนฟรีทุกโบกี้ สามารถมาเติมน้ำได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เอาถ้วยน้ำเมลามีนขนาดใหญ่และช้อนชงกาแฟแบบใหญ่ ติดตัวไปด้วย 1 ชุด (ใหญ่กว่าถ้วยและช้อนกาแฟแบบปกติสักหน่อย) เอาไว้ใช้ใส่ชงกาแฟก็ได้ ชงโจ๊กกินตอนเช้าๆก็ได้ ชุดเดียวจัดไปเถอะไม่เปลืองพื้นที่นัก สามารถใช้ประโยชน์ได้ตลอดทริป โดยเฉพาะคนที่ชอบดื่มกาแฟ
เอาแกแฟสำเร็จรูป, โจ๊กแบบซองรสที่ชอบไปจากเมืองไทย ชงกินเองประหยัดและอร่อยถูกใจ ถ้าเอาไข่เค็มไปกินกับโจ๊กด้วยก็อร่อยเอร็ดเชียว
ซื้อมาม่าจีนถ้วยโตๆ ถ้วยละ 5 หยวนที่ร้านด้านหน้าสถานีรถไฟติดขึ้นรถไปด้วย อร่อยกว่ามาม่าไทยเยอะ อย่าหอบไปจากไทยเลย มาม่าจีนถ้วยเดียวอิ่มแปร้
ใครไม่ชอบดื่มน้ำร้อน ก็ซื้อน้ำขวดจากร้านหน้าสถานีรถไฟติดขึ้นไปด้วยนะครับยังไงก็ถูกกว่าซื้อบนรถไฟ
ผลไม้หน้าสถานีก็ไม่แพง ซื้อๆติดขึ้นไปถ้าชอบกิน
ตู้เสบียง เปิดบริการเป็นช่วงๆตามเวลาอาหารเช้า กลางวัน เย็น ใครที่กินจุบกินจิบ กินตลอดทั้งวันละก้อ ซื้อขนมขบเคี้ยวเตรียมขึ้นไปเยอะๆแล้วกัน
ถ้ามีรถเข็นขายอาหารผ่านมาก็แสดงว่าตู้เสบียงเปิดแล้ว เพราะอาหารและผลไม้รถเข็นเป็นของจากตู้เสบียงครับ - ราคาอาหารในรถเข็นจะถูกกว่าที่ตู้เสบียงแต่ปริมาณก็จะน้อยกว่ากันนิดหน่อย
เอาไพ่ไปสักสำรับ แก้เบื่อเพราะไม่มีอะไรทำ ตั้งสีสิบแปดชั่วโมงที่อยู่แต่ในรถไฟนะ แต่ถ้าจะถามว่าเอาไฮโลว์ไปด้วยได้ไหมเฮีย อันนี้ แนะนำไปขอคำตอบจากตำรวจจีนเองนะครับ - สำหรับคนที่ไม่ชอบเล่นไพ่ก็หาอะไรที่ตัวเองชอบทำแก้ว่างติดไปด้วยแล้วกันครับ จะอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง หรือจะนั่งถักโครเช ก็จัดไป เรื่องของใครก็เรื่องของมัน
แต่บางคนโชคดีจัง เวลา 48 ชั่วโมง มันนอนซะ 40 ชั่วโมงได้มั้ง อย่างนี้ไม่ต้องขนอะไรไปให้ลำบากเลย
บนรถไฟมีปลั๊กแต่ไม่มีไฟ แหง่ววว ชาร์ทแบตกล้องไปให้เต็มอย่าได้พลาดเชียว ไม่งั้นแบตหมด อดถ่ายรูปวิวสวยๆ
เตรียมยาแก้ปวดหัวและแก้วิงเวียนไปด้วยครับ มีอาการบ้างเป็นบางคนแต่เท่าที่สอบถามเพื่อนร่วมทริปดู ก็เป็นกันทุกคนนะ แต่ไม่หนักหนาอะไร กินยาแก้ปวดหัวก็หายแล้ว
ในรถไฟมีระบบปรับอากาศ ปรับความดันและอุณภูมิให้พอดี พอดีแล้ว เสื้อหนาๆสักตัว กางเกงตัว ก็ OK แล้ว - ถ้ามีเป้หรือกระเป๋าผ้าเล็กๆสำหรับใส่เสื้อหรือชุดที่จะเปลี่ยนบนรถไฟไปด้วยก็เหมาะนะ เราต้องเก็บเสื้อกันหนาวไว้ในนี้ด้วย บนรถไฟไม่หนาวแต่ถึงลาซา ลงรถเมื่อไหร่ หนาวจับใจ ยังไงก็ต้องใช้เสื้อกันหนาวละครับ (เดือน พย - เมย)
ไม่มีห้องอาบน้ำ - หอยดองกับไข่เค็มเต็มรถไฟเลยจร้า เตรียมกระดาษเปียกไปด้วยครับ เช็ดเนื้อเช็ดตัวซะหน่อยก็ดี (ใครไม่รู้จักกระดาษเปียก ก็ถามคนขายว่า "กระดาษเปียกเช็ดตูดเด็กอยู่ตรงไหนครับ" เดี๋ยวก็รู้เองว่ามันเป็นยังไง) - อันนี้สำคัญมากต้องพกติดตัวตลอดทริปเลย ได้ใช้ประโยชน์ทุกวันครับ เช็ดตัว เช็ดมือ เช็ดหน้า เช็ดเหงื่อ เช็ดขี้มูก พอถึงทิเบตแล้วเราก็ต้องซักแห้งในวันอากาศหนาวจัดบ้าง กระดาษเปียกนี่ละครับ ช่วยได้เยอะทีเดียว

อยู่กับวิวแบบเนี๊ย 24 ชม.ไม่เบื่อมั่งหรอคับ อิอิ ล้อเล่นนะครับ....ได้เห็นรูปตั้งแต่บั้มก่อนแล้วทำให้อยากไปมากครับ
ReplyDeleteแต่ด้วยนิสัยที่เบื่อๆอยากๆเลยทำให้ไม่ค่อยได้ไปไหน...ขอบคุณที่มีภาพสวยๆมาฝากกันครับ
ชอบครับ
ReplyDeleteชอบอีกครับ
ReplyDeleteงดงาม
ReplyDeleteสวยครับ
ReplyDeleteรถบรรทุกกลับเด่นกว่าซะนี่ คันยาวดีนะคะ
ReplyDeleteวิ่งขึ้นเขาสูงๆแบบนี้ คนขับต้องเก๋าจริง
หิมะเยอะจัง หิมะมีตลอดทั้งปีหรือเปล่า
ReplyDeleteสวยแบบแห้งๆนะคะ ไม่ค่อยเห็นต้นไม้
ReplyDeleteสวยแปลกตาจริงๆ
ReplyDeleteนี่ก็สวยค่ะ
ReplyDeleteถึงจะนั่งรถไฟ 2 วัน แต่ได้ดูวิวแบบนี้ไม่มีเบื่อเลยแหงมๆ
ReplyDeleteครับผม
ReplyDeleteขอบคุณนะครับคุณปลา
ReplyDeleteคงไม่ทั้งปีนะครับ เขาว่ากันว่าปกติเมษาหิมะก็ไม่ตกแล้ว แต่ปีนี้จัดเป็นพิเศษ หิมะตกกลางเมษาเลย
ReplyDeleteน่าเหนื่อยหน่ะ
ReplyDeleteเป็นบ้านเมืองที่น่าสงสาร แทบจะม๊ายยมีต้นไม้เอาซะเลย
ReplyDeleteให้ไปอยู่อย่างนี้คงไม่ไหวเนอะ v_v
ReplyDeleteขอบคุณครับ
ReplyDeleteก็ต้องนั่งดูไปเรื่อยๆเพราะไม่มีอะไรทำ ลืมเอาไฟ่ไปด้วย ถ้ามีไพ่ไปละก้อคงไม่ได้รูปวิวอะไรมาฝากละครับ @^_^@
ReplyDeleteกล่องสีน้ำตาลนั้นคือบ้านเหรอค๊ะ ดีจังบ้านอยู่หลังเขา เอ หรือหน้าเขาหว่า
ReplyDeleteฮู้ว์
ReplyDeleteภูเขาเค้าเหมือน กองดินเลยเนอะ
ReplyDeleteอันนี้สวยค่ะ ชอบ
ReplyDeleteน้ำ แข็ง เหรอค๊ะ
ReplyDeleteเรียงแถวนั่นคืออะไรค๊ะ
ReplyDeleteวิวเขา อยู่กับ เสาไฟ ไม่น่าไปด้วยกันได้เลย 555
ReplyDelete555 เค้าห้ามพกเหล้าหรือเปล่าค๊ะ
ReplyDeleteถ้าเป็นจุ๋ม ชมวิวแบบนี้ พร้อมกับจิบเหล้า แล้วก็มีนิยายซักเล่ม คงสุขโขเลยหล่ะ
^_^
ReplyDeleteใช่ครับ กองดินดีๆนี่เอง ไม่มีต้นไม้กันเอาซะเลยละครับ คงเป็นเพราะหน้าหนาวหิมะคลุมยาวนานมั้งครับ
ReplyDeleteขอบคุณครับ
ReplyDeleteใช่แล้วครับ เดือนเมษาลำธารยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย
ReplyDeleteตรงนี้เป็นนาเกลือครับ รั้วที่เขากั้นๆไว้ เป็นเหมือนที่ดักแล้วก็เก็บเกลือนะครับ น่าแปลกเนอะ นาเกลือบนภูเขาสูง แค่เอาอะไรกั้นๆไว้เดี่ยวก็มีกองเกลือเกิดขึ้น พื้นที่นี้เคยเป็นทะเลก่อนที่เปลือกโลกจะเปลี่ยนแปลงดันขึ้นมาจนทิเบตเป็นหลังคาโลก ^_^ แถมยังไม่เหลือพื้นที่ติดทะเลอีกเลย แต่มี่ฟอสซิลหอยเยอะมาก
ReplyDeleteดูอีกทีก็ต้องชมจีนนะครับ มีชุมชนเล็กๆกระจัดกระจายไปทั่วในพื้นที่ทุรกันดารที่กว้างใหญ่ จีนก็เอาไฟฟ้าเข้าไปเซอร์วิสได้ทั่วทุกพื้นที่เลย แต่ที่เนปาล เมืองหลวงของเนปาลแท้ๆยังมีไฟฟ้าไม่พอใช้ ต้องจ่ายไฟเป็นเวลา
ReplyDeleteอันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ก่อนจะเข้าสถานีรถไฟจะถูกตรวจค้นเข้มงวดกว่าที่สนามบินสุวรรณภูมิของไทยซะอีก แต่คิดว่าไม่น่าได้นะครับ เพราะว่ารถไฟไต่ระดับความสูงขึ้นไปถึง 5,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เขาคงห้ามดื่มละครับ ส่วนคนที่สูบบุหรี่ วันแรกให้สูบบุหรี่ได้ แต่วันที่สองห้ามสูบเพราะรถไฟขึ้นที่สูงมากแล้ว
ReplyDeleteไม่ลงแดงกันบ้างเหรอ
ReplyDeleteจุ๋มว่าถ้าให้เลือก คนคงอยากไปเนปาลมากกว่าจีนนะ
ReplyDeleteความสะดวกมักอยู่ตรงข้ามกับความงามเสมอ
Where have all the flowers gone ??
ReplyDeleteวิวสวยแต่แทบจะไม่มีต้นไม้เลย แล้วเขาจะหาผักหญ้าที่ไหนมากินคะ ??
นี่ขนาดเดือนเมษายังหนาวอยู่เลยนะ
ReplyDeleteหนาวจับใจเลยละครับ
ReplyDeleteสวยทุกภาพเลยค่ะ ฝันอยากไปแบบนี้มานานละ แต่ยังไม่มีโอกาสเรยค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยเติมฝันให้
ReplyDeleteภาพสวยมากค่ะ เป็นแรงบันดาลใจให้ต้องไปให้ได้ อยากเห็นกับตา สวยกว่านี้สักครึ่งก็มีความสุขแล้ว
ReplyDeleteเชียร์ให้ไปนะครับ ทิเบต นอกจากวิวสวยแล้ว เรื่องราวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเขา ก็น่าสนใจมากๆครับ
ReplyDelete